นายวริศ ยงสกุล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท แบริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2567 มีมติอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทจำนวนไม่เกิน 2,547,000,000 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 2,032,076,706 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่จำนวน 4,579,076,706 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่จำนวนไม่เกิน 2,547,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตรา ไว้หุ้นละ 1.00 บาท เพื่อ 1.เสนอขายแบบเฉพาะเจาะจงให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) โดยกำหนดราคาเสนอขายไว้อย่างชัดเจน, 2.รองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน ของบริษัทที่จัดสรรให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement), 3.รองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทที่จัดสรรให้แก่ ให้แก่ กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงาน (ESOP-Warrant) และ 4. การแก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิเพื่อให้สอดคล้องกับการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ ล่าสุดที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2567 ของบริษัทผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Meeting) เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2567 แจ้งตลาดฯว่า ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นมีมติจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) 3 ราย รวมเป็นจำนวน 760 ล้านหุ้น โดยแบ่งเป็นจัดสรรให้ Insignia จำนวน 350 ล้านหุ้น ,นายวริศ ยงสกุล จำนวน 50 ล้านหุ้น และจัดสรรให้ Holding L จำนวน 360 ล้านหุ้น อีกทั้งอนุมัติการออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทเพื่อจัดสรรให้แก่บุคคล ในวงจำกัด (Private Placement) ครั้งที่ 3 (SABUY-W3) และ ครั้งที่ 4 (SABUY-W4) โดยได้พิจารณาอนุมัติการออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทเพื่อจัดสรรให้แก่บุคคล ในวงจำกัด (Private Placement) ครั้งที่ 3 ให้แก่ Insignia จำนวน 350 ล้านหน่วย โดยไม่คิดมูลค่า นอกจากนี้อนุมัติออกและเสนอขาย SABUY-W4 ให้แก่ นายวริศ ยงสกุล จำนวน 50 ล้านหน่วย โดยไม่คิดมูลค่า ควบคู่กันกับหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท จำนวน 50,000,000 หุ้นที่นายวริศจะจองซื้อและได้รับจัดสรร และอนุมัติการออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทให้แก่ กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อย ครั้งที่ 3 (SABUY-WC) อีกทั้งที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 350,000,000 หุ้น เพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิ SABUY-W3 และจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 50,000,000 หุ้น เพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิ SABUY-W4 และจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 87,000,000 หุ้น เพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิ SABUY-WC นอกจากนี้ได้อนุมัติเข้าซื้อหุ้นสามัญบริษัท ลอคบอกซ์ กรุ๊ป จำกัด (LOCKBOX) จำนวนไม่เกิน 30,000 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 80.0 ของทุนจดทะเบียน และการเข้าลงทุนในหุ้นสามัญในบริษัท ลอคบอกซ์ เวนเจอร์ จำกัด (LOCKVENT) จำนวนไม่เกิน 50,000 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 80.0 ของทุนจดทะเบียน ซึ่งเป็นผู้ให้บริการที่เกี่ยวกับ Smart Locker Box หลากหลายรูปแบบ อันประกอบด้วย 1) บริการ Smart Locker Box 2) ให้บริการจัดส่งสัมภาระ 3) พื้นที่ Media และโฆษณาต่าง ๆ และ 4) บริการเสริมอื่น ๆ เช่น กระเป๋า ถุงสัมภาระ วัสดุเพื่อการ Packing โดยชำระเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ โดยบริษัทฯจะชำระค่าตอบแทนจำนวนไม่เกิน 360 ล้านบาท ด้วยหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯจำนวนไม่เกิน 360 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ในราคาเสนอขายหุ้นละ 1 บาท ให้แก่บริษัทจำกัด (Holding L) ซึ่งจะจัดตั้งขึ้นภายใต้กฎหมายไทยโดยให้เป็นไปตามเงื่อนไขของกระบวนการทำ EBT ตามประมวลรัษฎากร โดยผู้ถือหุ้นของ Holding L เป็นผู้ถือหุ้นเดิมของ LOCKBOX และ LOCKVENT