นายวิชาญ วิริยะภูษิต

นายวิชาญ วิริยะภูษิต ประธานผู้บริหารสายงานการเงิน บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยว่าข้อมูลภาพรวมธุรกิจของบริษัทผ่านงาน Opportunity Day จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2566 ว่า บริษัทประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/66 มีรายได้รวมอยู่ที่ 9,554 ล้านบาท เติบโต 8% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 1,557 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของพี่ก่อน 23% ส่วนผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนปี 2566 มียอดขายรวมทั้งสิ้น 2,5699 ล้านบาท และมียอดขายรวม JV อยู่ที่ 27,087 ล้านบาท ส่วนรายได้รวม 9 เดือนอยู่ที่ 28,047 ล้านบาท เติบโต 28% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 4,760 ล้านบาท เติบโต 91% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และถือเป็นกำไรสูงสุดในประวัติการนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท ขณะที่ยอดโอนปัจจุบันอยู่ที่ 29,104 ล้านบาท คิดเป็น 71% ของเป้าหมายทั้งปีอยู่ที่ 41,000 ล้านบาท คาดว่ายอดโอนจะเข้าเป้า และแบ็กล็อก(backlog) ณ ปัจจุบันอยู่ที่ 18,500 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้จนถึงปี 2570 ส่วนช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาเปิดโครงการไปแล้ว 24 โครงการรวมมูลค่า 29,400 ล้านบาท จากแผนปีนี้คาดว่าจะเปิดตัวโครงการได้ทั้งหมด 46 โครงการรวมมูลค่า 66,000 ล้านบาท โดยในช่วงโค้งสุดท้ายไตรมาส 4/66 จะเปิดอีก 22 โครงการ มูลค่า 36,600 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น แนวราบ 14 โครงการ รวมมูลค่า 24,400 บาท และคอนโดมิเนียม 8 โครงการรวม มูลค่า 12,200 ล้านบาท โดยเปิดเป็นแล้ว 15 โครงการ และเหลือ 7 โครงการที่จะเปิดตัวในช่วงที่เหลือปีนี้ คาดแนวโน้มผลประกอบการปีนี้คาดว่าจะทำนิวไฮต่อเนื่องจากปีก่อน หลังจากงวด 9 เดือนทำยอดสูงสุดกว่าปีก่อน ส่วนแนวโน้มในปี 2567 คาดว่ายอดโอนในปี 2567 คาดว่าจะโต 10-20% ส่วนกำไรก็คาดว่าจะโตไม่ต่ำกว่า 20% นายวิชาญกล่าวอีกว่า ภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มองว่าปัจจัยภายนอก อาทิ สงครามรัสเซีย-ยูเครน และอิสราเอล-ฮามาส อาจจะมีผลกระทบต่อการส่งออกและการค้าขาย เนื่องจากเป็นปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ และดอกเบี้ยก็ต้องคงค้าง แต่ในด้านการการท่องเที่ยวน่าจะช่วยกระตุ้นในเรื่องของอสังหาฯได้จากกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ ดังนั้นในปีหน้ามองว่าการเติบโตปกติจะสอดคล้องกับการเติบโตของ GDP ประเทศ หากปีหน้านโยบายของรัฐบาลสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตได้ถึง 4% เชื่อว่าธุรกิจอสังหาฯปีหน้าก็จะฟื้นมาเติบโตได้ถึงราว 6%