นายสมชาย เมฆะสุวรรณโรจน์

นายสมชาย เมฆะสุวรรณโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอแอนด์ไอ กรุ๊ป จำกัด ( มหาชน) หรือ IIG เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานประจำปี 2564 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2564 บริษัทฯ มีรายได้รวมซึ่งประกอบด้วยรายได้จากการขายและการให้บริการให้คำปรึกษาติดตั้งระบบโปรแกรมคอมพิวเตอร์ อยู่ที่ 690.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 136.93 ล้านบาท หรือคิดเป็น 24.8% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 553 ล้านบาท ขณะที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 79.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.60 ล้านบาท หรือคิดเป็น 26.4% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 62.77 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากรายได้ทุกกลุ่มธุรกิจของบริษัทฯ มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยการเติบโตหลัก มาจากธุรกิจด้านการบริหารจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM) และธุรกิจด้านการวางแผนทรัพยากรองค์กร (ERP) ที่มีอัตราการเติบโต 15.2% และ 26.5% ตามลำดับ โดยบริษัทฯ มีรายได้หลักจากการขายและการให้บริการ ด้านการบริหารจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM) ซึ่งมีรายได้อยู่ที่ 364.06 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 47.90 ล้านบาท หรือคิดเป็น 15.2% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากการให้บริการกลุ่มลูกค้าใหม่เพิ่มมากขึ้น เช่น ธุรกิจประกันชีวิตรายใหญ่ ธุรกิจประกันภัย ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจพลังงาน สำหรับธุรกิจด้านการวางแผนทรัพยากรองค์กร (ERP) มีรายได้อยู่ที่ 244.48 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51.25 ล้านบาท หรือคิดเป็น 26.5% จากการให้บริการลูกค้ารายใหม่ ซึ่งเป็นธุรกิจบริหารจัดการสินทรัพย์ และจากการอนุญาตให้เช่าใช้งานระบบซอฟต์แวร์ (ERP On Cloud) ที่เพิ่มมากขึ้น ทั้งจากลูกค้าปัจจุบันและลูกค้ารายใหม่ ด้านธุรกิจด้านการวางแผนกลยุทธ์แบรนด์ การสร้างและบริหารประสบการณ์ลูกค้า (CEM) และการตลาดดิจิทัล มีรายได้ 35.15 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 14.71 ล้านบาท หรือคิดเป็น 72.0% เป็นผลจากบริษัทฯ มีลูกค้ารายใหม่ ในกลุ่มธุรกิจธนาคารพาณิชย์ ธุรกิจโรงพยาบาล และธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายยา และในส่วนธุรกิจด้านการวิเคราะห์และจัดการข้อมูลเพื่อธุรกิจ (Data Analytics & Management) หรือ iiG Data ที่ได้เริ่มดำเนินธุรกิจเมื่อปลายปี 2563 มีรายได้ 14.49 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 12.86 ล้านบาท หรือคิดเป็น 789.0% จากการให้บริการแก่ลูกค้าในกลุ่มธุรกิจโรงพยาบาล และลูกค้ารายในกลุ่มธุรกิจประกันชีวิต นายสมชาย กล่าวต่อว่า สำหรับปี 2565 บริษัทฯ คาดว่าจะมีรายได้ทั้งปีเติบโตประมาณ 900-950 ล้านบาท จากการที่ลูกค้าองค์กรธุรกิจต่างๆ ต้อง transform ตัวเองด้วยเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการต่อยอดและขยายธุรกิจของบริษัทฯ ในปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังคงมองหาโอกาสในการขยายธุรกิจ พัฒนาคุณภาพการให้บริการ และความสามารถของบุคลากรอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้แก่บริษัทฯ อนึ่ง ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ที่ผ่านมา (23 ก.พ.) มีมติอนุมัติจ่ายปันผล 0.40 บาทต่อหุ้น คิดเป็นเงิน40 ล้านบาท โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล ในวันที่ 5 พฤษภาคม 2565 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 20 พฤษภาคม 2565