นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ

นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เปิดเผยกรณีการเพิ่มจำนวนธนาคารและการให้ใบอนุญาตธนาคารไร้สาขา(เวอร์ชวลแบงก์) ไม่เกิน 3 รายนั้น มองว่าเป็นจำนวนที่เหมาะสม เมื่อเทียบกับธนาคารดั้งเดิมเต็มรูปแบบในไทย 17 แห่ง ซึ่งถือว่าไม่น้อย โดยโจทย์คืออยากเห็นอะไรใหม่ๆ อยากเห็นออกมารองรับผู้กู้ที่เข้าไม่ถึงสินเชื่อ อยากเห็นการกู้รูปแบบใหม่ๆ เพราะทุกวันนี้ใช้ชีวิตบนมือถือ อยากเห็นการกระตุ้นการแข่งขันรูปแบบใหม่ๆ ดังนั้นเวอร์ชวลแบงก์ไม่ต้องมากแต่ต้องใหญ่พอ เพื่อแข่งขันกับรายใหญ่ๆได้ เพื่อไม่สร้างความเสี่ยง โดยเตรียมเสนอร่างประกาศให้กระทรวงการคลังพิจารณาสิ้นเดือนก.ค.นี้ และเปิดรับสมัครสิ้นปีนี้ จากนั้นประกาศชื่อในปี 67 และออกใช้บริการได้ปี 68 ส่วนทุนจดทะเบียนกำหนด 5,000 ล้านบาทที่ตั้งไว้สูงเพราะอยากให้แข่งขันกับรายใหญ่ได้ เห็นจากตัวอย่างในต่างประเทศช่วงเริ่มต้นก็ขาดทุนเป็นพันล้าน กว่าจะมีกำไรใช้เวลาอย่างน้อย 3 ปี บางแห่งใช้เวลามากถึง 9 ปี บางแห่งก็ปิดกิจการไปก่อน แต่ถ้าเวอร์ชวลแบงก์ในไทยทำแล้วดี มีโอกาสขยายเพิ่มได้อีก ต้องเรียนรู้ศึกษา และการให้เงินเข้าถึงกลุ่มล่างเป็นสิ่งที่อยากเห็น แต่ยอมรับไม่ใช่เรื่องง่าย “ถ้าเปิดเวอร์ชวลแบงก์เยอะ รับประกันเลยว่าต้องไปตามปิดธนาคาร และเป็นเรื่องใหญ่เรื่องปวดหัว กระทบคนเยอะเรื่องความเชื่อมั่นต่างๆ เช่น ขนาดแบงก์ตัวเล็กของสหรัฐ เอสวีบี เป็นแบงก์ตัวเล็กธนาคารท้องถิ่นในประเทศ แต่พอปิดกลับเจอกระทบความเชื่อมั่นของคนจำนวนมาก” ส่วนกรณีการเพิ่มจำนวนธนาคารให้เยอะขึ้นหลายราย จะเพิ่มการแข่งขันให้มากขึ้นหรือไม่ มองว่าถ้าเทียบธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ เป็นหลักพันราย แต่คิดดอกเบี้ยเต็มเพดาน ผู้เล่นเยอะแต่มีความเสี่ยง ทำให้ดอกเบี้ยแพง ดังนั้นไม่ได้ดูจำนวนอย่างเดียว แต่มาจากความเสี่ยงของแต่ละคนด้วย