นายโดนัลด์ ทรัปม์

นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ เปิดเผยว่า แนวโน้มราคาทองคำไทยและทองคำโลก ยังปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขึ้นอยู่กับสถานการณ์เศรษฐกิจโลกและสงครามทางเศรษฐกิจจากนโยบายของ นายโดนัลด์ ทรัปม์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ที่ได้มีการเลื่อนเก็บภาษีนำเข้าสินค้าเป็นระยะเวลา 90 วัน ซึ่งยังไม่มีข้อยุติที่ชัดเจน ทำให้แบงก์ชาติในหลายประเทศมีการขายดอลลาร์ซื้อทองคำ ทำให้ราคาทองมีความผันผวนราคาขึ้นๆลงๆ ในระยะสั้น แต่หากผู้ที่มีเงินเย็น หากต้องการซื้อเพื่อการลงทุน แนะนำให้ถือไว้ระยะยาว เนื่องจากราคาทองมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอีก จากแรงซื้อสินทรัพย์ที่ปลอดภัยท่ามกลางความกังวลสงครามการค้า โดยคาดการณ์ว่าปลายปีนี้อาจจะได้เห็นราคาทองอยู่ที่ 56,000-58,000 บาทต่อบาททองคำ และทองคำโลกอยู่ที่ 3,600 ดอลลาร์ต่อออนซ์ “จากเดิมคาดการณ์ว่าปลายนี้จะได้เห็นราคาทองไทย 55,000 บาทต่อบาททองคำ แต่ดูจากสถานการณ์ในเมื่อวันที่ 21 เม.ย.68 ที่ราคาทองคำทำนิวไฮทั้งทองคำแท่งและทองรูปพรรณ ที่ราคาเกิน 53,000 บาทต่อบาททองคำ คาดว่าเร็วๆนี้จะได้เห็นทองราคาบาทละ 55,000 บาท เร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้”นายจิตติกล่าว นายจิตติกล่าวว่า ทั้งนี้จากการที่ราคาทองแพงขึ้นอยู่อย่างต่อเนื่อง ส่งผลต่อการซื้อขายทองหน้าร้านที่ซบเซามาก กำลังซื้อหายไปมากกว่า 50% แล้ว ซึ่งผู้ค้าก็ต้องทำใจยอมรับกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และต้องปรับตัว พยายามบาลานซ์สต๊อกให้ดี