นิโคลัส แฟรปเปลล์

ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (16 เม.ย.68) สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า ราคาทองคำโลกพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงในการซื้อขายช่วงเช้าของตลาดเอเชีย โดยราคาทองคำสปอต (Spot Gold) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.9% แตะระดับ 3,287.79 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อเวลา 13:48 น. ตามเวลาในภูมิภาค ซึ่งก่อนหน้านั้น ราคาทองคำได้พุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดครั้งใหม่ที่ 3,294.99 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะเดียวกัน สัญญาทองฟิวเจอร์สหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นเกือบ 2% ทะลุระดับ 3,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นที่เรียบร้อย โดยขึ้นไปแตะระดับ 3,304.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยนักลงทุนทั่วโลกกำลังจับตาดูการเปิดเผยตัวเลขยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ ซึ่งมีกำหนดเผยแพร่ในวันนี้ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวจะเป็นอีกหนึ่งสัญญาณสำคัญที่ช่วยสะท้อนภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และอาจส่งผลต่อทิศทางนโยบายการเงินในอนาคตของ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตลอดทั้งปี 68 นี้ ราคาทองคำปรับตัวขึ้นไปแล้วมากถึง 25% และแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ไปแล้วหลายครั้ง ขณะที่ นิโคลัส แฟรปเปลล์ หัวหน้าฝ่ายตลาดนักลงทุนสถาบันทั่วโลกของบริษัท ABC Refinery ระบุว่า ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับอัตราภาษีศุลกากรที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น รวมถึงท่าทีที่แข็งกร้าวมากขึ้นของรัฐบาลสหรัฐฯ กำลังส่งผลกระทบต่อการค้าสินค้าที่ผ่านประเทศที่สาม และอาจสร้างความเสียหายต่อห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก ปัจจัยเหล่านี้ กลายเป็นแรงหนุนสำคัญที่ผลักดันให้ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ไบรอัน หลัน กรรมการผู้จัดการ GoldSilver Central ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายในสิงคโปร์ กล่าวว่า ทองคำจะยังคงแข็งแกร่งต่อไปตราบเท่าที่ยังมีความไม่แน่นอน เราเชื่อว่าการซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงยังคงดำเนินต่อไป ขณะที่ ธนาคาร ANZ ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาทองคำ ณ สิ้นปี 2568 เป็น 3,600 ดอลลาร์/ออนซ์ และคาดการณ์ราคา 6 เดือนเป็น 3,500 ดอลลาร์/ออนซ์