นํ้ามันดูไบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (17 เม.ย.67) สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (US EIA) รายงานตัวเลขปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 2.7 ล้านบาร์เรล (mmbbl) ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งผิดกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 1.4 ล้านบาร์เรล ในขณะที่ปริมาณ (gasoline) น้ำมันเบนซินหรือก๊าซโซลีนคงคลังลดลง 1.2 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 0.9 ล้านบาร์เรล ส่วนปริมาณน้ำมันการกลั่น (distillate) คงคลังลดลง 2.8 ล้านบาร์เรล สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลง 0.3 ล้านบาร์เรล ในขณะเดียวกันมีรายงานว่าอิสราเอลยังอยู่ในระหว่างพิจารณาตอบโต้การโจมตีของอิหร่านแม้ว่าจะมีความพยายามจากประเทศพันธมิตรในการลดความรุนแรงระหว่างสองประเทศ โดย บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (18 เม.ย.67) ว่ามีมุมมองเป็นกลางต่อแนวโน้มราคาน้ำมันดิบซึ่งน่าจะยังคงมีความผันผวนสูงในระยะสั้นจากความกังวลทั้งฝั่งอุปสงค์และอุปทานน้ำมันโลก ขณะที่เมื่อวานนี้ 17 เม.ย.67 ราคาสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบเบรนท์ (Brent) ปรับตัวลดลง 3% เป็น 87.30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ในเบื้องต้นฝ่ายนักวิเคราะห์ยังคงสมมติฐานราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยที่ 77 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ในปี 2567 ลดลงจาก 81.90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ในปี 2566 โดยคาดการณ์ว่าราคาน้ำมันดิบจะปรับตัวลงจากครึ่งปีหลังในปี 2567 ตามปริมาณการผลิตน้ำมันของสหรัฐที่สูงขึ้น โดยฝ่ายนักวิเคราะห์ยังคงคำแนะนำเท่ากับตลาด สำหรับกลุ่มพลังงาน ด้านฝ่ายนักวิเคราะห์ยังคงมีความสนใจหุ้นกลุ่มโรงกลั่น ซึ่งเชื่อว่าจะมีการรายงานกำไรที่แข็งแกร่งในไตรมาส 1 ปี 2567 อาทิ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 65.00 บาท และ บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 10.50 บาท