บริษัท มะหะทุน เช่าสินเชื่อ มหาชน

นายธีร ชุติวราภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อัลฟ่า ดิวิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ALPHAX เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 1/2565 น่าจะใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และจะขยับดีขึ้นนับตั้งแต่ไตรมาส 2/2565 เป็นต้นไป เนื่องจากบริษัทจะมี 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่ 1.ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 2.ธุรกิจกัญชง-กัญชา และ 3.ธุรกิจใหม่ ที่สปป.ลาวที่ให้บริการสินเชื่อ เป็นตัวขับเคลื่อนผลประกอบการ สำหรับธุรกิจกัญชง-กัญชา บริษัทได้จับมือพันธมิตร คือ บริษัท โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ JP ในฐานะผู้รับจ้างผลิต คาดว่าจะได้รับใบอนุญาตสกัดสาร CBD จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ภายในเดือนช่วงต้นเดือน ก.พ. 2565 หลังจากได้มีการติดตั้งเครื่องจักรเครื่องแรกแล้ว ซึ่งมีศักยภาพในการป้อนวัตถุดิบ 300 กิโลกรัมต่อเดือน โดยปัจจุบันมีลูกค้าที่ทำสัญญากับบริษัทแล้วประมาณ 35 ราย ทำให้คาดว่าในปี 2565 จะมีรายได้จากธุรกิจกัญชง-กัญชาประมาณ 600 ล้านบาท และในอนาคตหากมีลูกค้าเพิ่มก็อาจจะมีการปรับตัวเลขรายได้เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ประเมินไว้ นอกจากนี้ยังรอภาครัฐออกกฎหมายมารองรับกัญชาด้วย คาดว่าพ.ร.บ.กัญชาจะออกมาเร็วกว่าเดิมที่คาดไว้อีก 2 ปี ขณะที่ธุรกิจใหม่ ที่สปป.ลาว โดยจากการเข้าลงทุนซื้อหุ้นในบริษัท มหทุน โฮลดิ้ง จำกัด ที่คาดว่ากระบวนการแลกหุ้น โดยออกหุ้นเพิ่มทุนเพื่อชำระค่าซื้อหุ้นแทนเงินสดจะแล้วเสร็จในเดือนเม.ย. 2565 ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทเริ่มรับรู้รายได้จากธุรกิจใหม่ตั้งแต่เดือนพ.ค. หรือเดือน มิ.ย. 2565 เป็นต้นไป ทั้งนี้การเข้าซื้อหุ้นบริษัท มหทุน โฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งมีการลงทุนในบริษัท มะหะทุน เช่าสินเชื่อ มหาชน ที่ประกอบธุรกิจให้บริหารสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ในสปป.ลาว โดยมีฐานลูกค้าหลัก 1 แสนราย มีอัตรากำไรสุทธิ (Net profit margin) สูงระดับ 33% ทางบริษัทสามารถไปขยายตลาด เพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เข้าไปได้ และจะขยายฐานลูกค้าเพิ่มอีก 8,000-10,000 ในอนาคต ซึ่งในตลาดสปป.ลาวให้ความสำคัญกับเงินบาท ดอลลาร์ และทอง เช่น ซื้อมอเตอร์ไซค์ แถมทอง หรือเป็นโบรกเกอร์ขายประกันพ่วงมอเตอร์ไซค์ เป็นต้น ซึ่งการทำการตลาด (มาร์เก็ตติ้ง) จะดำเนินการผ่านช่องทางออนไลน์ ผ่านเฟซบุ๊ก หรือไลน์ เป็นต้น ขณะเดียวกันบริษัท มะหะทุน เช่าสินเชื่อ มหาชน ค่า D/E อยู่ที่ 0.20 เท่าถือว่าต่ำมาก ส่วนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ก็ยังเน้นโครงการแนวราบ โดยในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2565 โครงการ IKON SUKHUMVIT 77 ย่านอ่อนนุช ในเดือนม.ค. 2565 มียอดขายแล้วประมาณ 40 ล้านบาท น่าจะปิดขาย 160 ล้านบาทได้แน่นอนในปี 2565 ขณะที่โครงการ IKON UDOMSUK เปิดขายเมื่อไตรมาส 4/2563 สามารถขายได้แล้ว 80% คาดว่าจะแล้วเสร็จและโอนในปี 2565 ด้านโครงการ THE VALOR เป็นโครงการบ้านเดี่ยว รามอินทรา จำนวน 25 ยูนิต เป็นทำเลที่มีศักยภาพ ไม่มีคู่แข่ง ทำให้บริษัทมีความมั่นใจว่าในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไม่ว่าจะเปิดขายโครงการไหนก็จะขายหมดแน่นอน