บอนด์ยีลด์ขาลง

นายฐกฤต ชาติเชิดศักดิ์ AISA,CFTe ผู้ช่วยผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยในรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” วันนี้ (17 ก.พ.68) ว่า แนวโน้ม SET Index ย่อตัวโดยให้แนวรับ 1,240 จุด โดยมีมีปัจจัยเสี่ยงในเรื่องของกำไรตลาดระยะสั้นมีความเสี่ยงด้านดาวไซด์ของ AOT และ DELTA และยอดค้าปลีกสหรัฐฯเดือนม.ค.68 ที่ต่ำกว่าคาดหากแนวรับ 1240 จุด เอาไม่อยู่มีโอกาสลงไปทดสอบระดับ 1,200 จุด เนื่องจากหุ้น DELTA ทุกๆ 1 บาทที่ราคาอ่อนตัวจะมีผลต่อดัชนี 1 จุด บวกกับแรงขายหุ้นบิ๊กแคปอื่นๆเข้ามาร่วมด้วยทั้ง AOT ที่ส่วนแบ่งผลประโยชน์เชิงพาณิชย์ไม่แน่นอนหลังลูกค้าบางรายมีปัญหาสภาพคล่อง รวมถึง SCB ที่เป็นธนาคารหลักที่มีความเชื่อมโยงกับลูกค้าดังกล่าว ตรงนี้กลายเป็นปัจจัยที่ทำให้บรรยากาศของตลาดไม่สดใส อย่าวไรก็ตามในภาพรวมมองว่ามีโอกาสมากที่หุ้นใหญ่อื่น ๆ อาจจะบวกสวนขึ้นมาช่วยพยุงตลาดไม่ให้ปรับตัวลงแรง โดยมองจะมีเม็ดเงินไหลออกจากตัวที่ไล่เรียงดังกล่าวไป โดยเป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานแกร่ง อาทิ กลุ่ม ICT ได้แก่ ADVANC และกลุ่ม โรงไฟฟ้าตัวใหญ่ ๆ อย่าง GULF และกลุ่มที่ผลประกอบการออกมาแล้วแนวโน้มดี เช่น MINT อาจจะเห็นเม็ดเงินไหลเข้าไปในกลุ่มนี้ที่จะเป็นตัวพยุงตลาดได้ ดังนั้นกลยุทธิ์ในการลงทุนวันแนะนำคือ ต้องเป็นคนที่รับความเสี่ยง หรือ อาจจะเป็นลักษณะมองลงทุนแบบ Long-Term และเน้นไปที่กลุ่มหุ้น Big Cap อาจจะเป็นเป้าหมายของการย้ายเม็ดเงินจาก AOT หรือ DELTA ไปยังกลุ่มที่มีปัจจัยบวกหรือได้ ประโยชน์ทิศทางดอกเบี้ยขาลง และบอนด์ยีลด์ที่เป็นขาลง ซึ่งกลุ่มที่ได้ประโยชน์ อาทิ โรงไฟฟ้า,เช่าซื้อ High Yield หนี้สูง โดยชู ADVANC,GULF และ MINT เป็นหุ้นจะแข็งกว่าตลาดแล้วก็มีโอกาสที่จะได้ผลตอบแทนในระยะกลาง-ยาว ส่วนหุ้นขนาดกลาง-ขนาดเล็กที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวและมีผลประกอบการดีแนะนำ กลุ่มขายอุปกรณ์มือถือแนะนำ ADVICE มีปัจจัยบวกก็คือราคา Apple ในต่างประเทศปับตัวสูงขึ้นประมาณเกือบ 2% เนื่องจากมีปัจจัยบวกก็คือวันที่ 19 กุมภาพันธ์นี้ จะมีการเปิดตัว iPhone SE ซึ่งเป็น iPhone รุ่น ประหยัด โดย ADVICE ได้ประโยชย์ดังกล่าวแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/67 คาดประกาศออกมาจะโตดีโดยจะประกาศประมาณวันที่ 21 ก.พ.นี้ และที่สำคัญแวลูชันถูก โดย PE ประมาณ 0.5 เท่า ส่วนประเด็นหุ้น BIG CAP อย่าง AOT,DELTA,SCB และกลุ่ม CP ราคาปรับลง สำหรับมุมมอง DELTA ช่วงนี้แนะนำชะลอการลงทุนเพราะว่าล่าสุดประชุมนักวิเคราะห์ออกมาโทน Native เนื่องจากการเติบโตของรายได้เติบโตดับเบิลดิจิตที่วางไว้ก่อน หน้ เนี่ยถือว่ามีความท้าทาย สำหรับคนที่ไม่มีหุ้นในจจุบันราคาหุ้นยังมีดาวไซด์บนกำไรและ PE ยังค่อนข้างแพง ด้าน AOT ก็คล้ายๆกันโดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาปรับลงแรงโมเมนตัมทางเทคนิคก็ยังดูไม่ดีรอหุ้นสร้างฐานก่อนดีกว่าเพราะว่าปัจจัยระยะสั้นยังไม่มีปัจจัยบวกเข้าหนุน ส่วนกลุ่มค้าปลีกดูน่าสนใจ เช่น CPALL ,CPXTA ที่มีประเด็น “Seven & i” ก็สะท้อนในราคาไปหมดแล้ว ประกอบกับสภาพัฒน์รายงาน GDPไตรมาส 4/67 ออกมาเช้านี้ โต 3.2% ยังมองว่าค้าปลีกน่าสนใจ ทั้งนี้จากผลประกอบการไตรมาส 4/67 ของ DELTA ที่ออกมาอ่อนแอยังมองภาพของสัญญาณผลประกอบการในอนาคตจะไม่โดดเด่นเหมือนในช่วงที่ผ่านมา ดังนั้น ในแง่ของการเป็นหุ้นพอกซี่ของตลาดเพื่อใช้ทำดัชนีขึ้นหรือลงของ DELTA ตรงนี้ก็อาจจะหายไป ส่วนหุ้นที่จะก้าวขึ้นมาเป็นตัวนำในกลุ่มบิ๊กแคปยังมองเป็นกลุ่ม ICT เช่น ADVANC GULF ในฝั่งของ SET50-SET100 จะเห็นการเคลื่อนย้ายทุนไปในกลุ่มนี้