บอนด์ยีลด์ 30 ปี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (9 มี.ค. 66) ว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลของสหรัฐฯ (บอนด์ยีลด์) ทั้งอายุ 2 ปี, 10 ปี, 30 ปี ต่างปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง โดย ณ เวลา 10:42 น. ตามเวลาไทย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 2 ปี อยู่ที่ระดับ 5.06% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ต.ค. 2550 ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี อยู่ที่ระดับ 3.99% และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี อยู่ที่ระดับ 3.89% ซึ่งมีความอ่อนไหวต่อนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) พุ่ง สำหรับการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปีได้รับแรงหนุนจากที่ว่าทางออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐพุ่งขึ้น 242,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 205,000 ตำแหน่ง จากระดับ 119,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. ส่วนภาคบริการมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 190,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. ขณะที่ภาคการผลิตมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 52,000 ตำแหน่ง ประกอบกับ เจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา (เฟด) ขึ้นกล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ต่อสภาคองเกรสเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (7 มีนาคม) โดยพาวเวลล์ยอมรับว่า (เฟด) อาจต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงกว่าที่เจ้าหน้าที่เฟดคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงมีความแข็งแกร่ง พร้อมกับพาวเวลล์ย้ำอีกว่า ข้อมูลทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่งกว่าที่คาดไว้ โดยเฉพาะตลาดแรงงาน ทั้ง ๆ ที่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมาอย่างต่อเนื่อง บ่งชี้ได้ว่าgaf Fed ยังคงมีพื้นที่ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทำให้อัตราดอกเบี้ยขั้นสุดท้ายของเฟดมีโอกาสจะสูงกว่าที่คาดการณ์กันไว้ ขณะที่ นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนนี้ และเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแตะระดับสูงสุดในกรอบ 5.50-5.75% ในเดือนมิ.ย. รวมทั้งเฟดจะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ หลังการกล่าวถ้อยแถลงของนายพาวเวลวานนี้ ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 72.0% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 21-22 มี.ค. และให้น้ำหนักเพียง 28.0% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25%