บอร์ด AIS

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (3 พ.ย. 2565) จับตาการประชุมคณะกรรมการบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC โดยมีวาระที่จะพิจารณาเห็นชอบงบการเงินไตรมาส 3/2565 รวมทั้งพิจารณาข้อเสนอจากผลการประชุมวิสามัญผู้ถือหน่วยกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน (JASIF) โดยมีการคาดการณ์ว่าจะออกมา 3 แนวทาง ได้แก่ 1)ปรับลดราคาซื้อ JASIF ลง 2)ยอมรับเงื่อนไขผลโหวต JASIF ทั้งหมด และ 3)ปรับเพดานส่วนลดการชำระค่าเช่าลง แหล่งข่าวจากวงการตลาดทุน มองว่า ADVANC ได้วางไว้หลายโมเดลสำหรับธุรกรรมดังกล่าว และหนึ่งในหลายโมเดลที่มีการกล่าวถึงกันมากในกลุ่มนักวิเคราะห์และฝ่ายวิเคราะห์ของกองทุน คือ มีความเป็นไปได้ที่เอไอเอสจะขอเจรจากับ JAS เพื่อขอปรับลดราคาซื้อหน่วยลงทุน JASIF ให้ต่ำกว่า 8.50 บาท เรื่องการขอลดราคารับซื้อหน่วยลงทุน JASIF ลงมา หากเป็นเรื่องจริง อาจจัดประชุมเพียงแค่ผู้ถือหุ้น JAS เท่านั้นไม่ต้องจัดประชุมผู้ถือหน่วยลงทุนของ JASIF และราคาขอซื้อที่ลดลงนั้น ทาง AIS อาจขอแลกกับการที่ “ยอมรับ” ด้วยการจะไม่มีการเลิกประกันรายได้และลดค่าเช่า ส่วนข้อเสนอที่จะให้ TTTBB จ่ายค่าเช่าล่วงหน้า 3,000 ล้านบาท และข้อเสนอของธนาคากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL เกี่ยวกับการยืดหนี้และลดดอกเบี้ยให้กับ JASIF นั้นได้ยุติไปแล้ว เนื่องจากไม่เป็นไปตามเงื่อนไขของวาระการประชุมที่ต้องผ่านการอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหน่วยทั้งหมดทุกวาระ นายพิสุทธิ์ งามวิจิตวงศ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการ ADVANC วันนี้ วาระที่ต้องจับตานอกเหนือการประชุมอนุมัติงบไตรมาส 3/2565 แล้ว คือการรายงานผลประชุมผู้ถือหน่วยลงทุน JASIF เมื่อวันที่ 18 ต.ค.ที่ผ่านมา เพื่อให้บอร์ดพิจารณาเห็นชอบ “โดยหากว่าบอร์ด AIS รับผลโหวตของ JASIF ที่ไม่ยอมลดค่าเช่าและแก้ไขสัญญา จะสามารถแจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ พร้อมกับงบไตรมาส 3 วันนี้ได้เลย” นายพิสุทธิ์ กล่าว ทั้งนี้ คาดว่าหลังจากปิดดีล AIS จะแจ้งขอใบอนุญาตในการควบรวมกิจการต่อสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ที่คาดว่าจะพิจารณาเสร็จภายในเดือน ก.พ.-เดือน มี.ค. 2566 นายพิสุทธิ์ กล่าวว่า ADVANC อาจมีทางเลือกไม่มาก เพราะที่ผ่านมาผลการดำเนินงานค่อนข้างทรงตัว เนื่องจากการแข่งขันที่รุนแรงในธุรกิจโทรคมนาคม หลังจากบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE ควบรวมกิจการกับบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DTAC ดังนั้น AIS จึงต้องหาแหล่งรายได้เพิ่ม โดยการซื้อกิจการบริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTTBB และ JASIF ในครั้งนี้ ขณะที่ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่า ผลประกอบการ ADVANC ช่วง Q3/2565 จะทรงตัว หรือลดลงเล็กน้อย โดยบริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) คาดว่า ADVANC จะมีกำไรสุทธิ 6,300 ล้านบาท ลดลง 6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) และลดลง 5% จากไตรมาสก่อน (QoQ) โดยเกิดจากผลกระทบเงินเฟ้อและฤดูกาล ฉุดการใช้งานกลุ่มลูกค้าเปราะบางลดลง ท่ามกลางการแข่งขันด้านราคายังอยู่ในระดับสูง ทั้งมือถือและบรอดแบนด์ จึงคาดรายได้บริการชะลอตัว หรือแค่ทรงตัว ขณะที่ แนวโน้มค่าใช้จ่ายหลายรายการที่เป็นขาขึ้น ได้แก่ ค่าไฟฟ้า (2% ของรายได้), ค่าใช้จ่ายการตลาด อัตรากำไรจากการดำเนินงาน (EBITDA margin) จะเหลือ 48.4% จาก 54.0% ทั้งนี้คาดมีเพียงผลการดำเนินงานของธุรกิจขายมือถือ (20% ของรายได้) ที่จะดีขึ้นมามีกำไร 100 ล้านบาท จากขาดทุน 32 ล้านบาท เทียบกับปีก่อน เพราะปัญหาขาดแคลนชิปคลี่คลาย และได้อานิสงส์ขายไอโฟนรุ่นใหม่เร็วขึ้นเกือบ 1 เดือน ทั้งนี้ ให้จับตาความคืบหน้าดีลซื้อ TTTBB และ JASIF หากตกลงกันได้ ก็จะส่งผลดีต่อผลการดำเนินงานของบริษัทในอนาคต โดยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับหุ้น ADVANC ที่ 2.7 บาทต่อหุ้น จากราคาเป้าหมาย 252 บาท บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) แนะนํา “ซื้อ” หุ้นบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC ราคาเป้าหมายที่ราคา 246 บาท โดยคาดกำไรปกติไตรมาส 3/2565 อยู่ที่ 6,613 ล้านบาท ลดลง 2.8% YoY ทั้งนี้ คาดว่า ADVANC จะเสนอดีลใหม่ เช่น จ่ายเงินสดมากขึ้น หรือปรับเพดานส่วนลดการชำระค่าเช่า จากเดิมที่ผู้ซื้อขอลด 30% การที่ผู้ถือหน่วยอนุมัติวาระที่ 1.1 และ 1.3 แสดงให้เห็นว่าผู้ถือหน่วย JASIF ยอมรับแนวคิดให้ ADVANC เป็นผู้สนับสนุนกองทุน แต่คงต้องเจอกันคนละครึ่งทาง