บีแอล ฟาลคอน พีทีอี

บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ PLANB กล่าวว่า บริษัทสามารถสร้างผลการดำเนินงานในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2566 ได้อย่างโดดเด่น ด้วยการสร้างรายได้ที่ 3,744 ล้านบาท และกำไรสุทธิที่ 359 ล้านบาท เติบโตอย่างก้าวกระโดด 32% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนจากการเติบโตของทุกธุรกิจ บริษัทยังคงเป้าหมายการเติบโตของรายได้ในปี 2566 ที่กว่า 7.7-8.0 พันล้านบาท เป็นไปตามแผนการณ์ที่วางไว้ นอกจากนี้ ด้วยผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องส่งผลให้บริษัทสามารถสร้าง EBITDA ได้กว่า 1,759 ล้านบาท และกระแสเงินอิสระเป็นบวกพร้อมต่อยอดและขยายการลงทุนไปยังเมืองเศรษฐกิจสำคัญของโลกเริ่มต้นที่ประเทศสิงคโปร์และนิวยอร์คซึ่งเป็นศูนย์กลางของการท่องเที่ยวอย่างกรุงเทพฯ จากความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาและต่อยอดเครือข่ายสื่อโฆษณานอกที่อยู่อาศัยอย่างไม่หยุดยั้ง โดยในปีนี้บริษัทได้เล็งเห็นโอกาสความจำเป็นในการต่อยอดธุรกิจในเอเชีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศสิงคโปร์ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของเศรษฐกิจ จำนวนนักท่องเที่ยว รวมถึงระบบเทคโนโลยีต่างๆ ที่มีความทันสมัยในอับดับต้นๆ ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัทจึงตัดสินใจขยายการลงทุนโดยการเข้าซื้อหุ้นสามัญใน บริษัท บีแอล ฟาลคอน พีทีอี (“ฟาลคอน”) จำนวน 2,100,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 70 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของฟาลคอน ด้วยเงินลงทุนเริ่มต้น 475,000 เหรียญสิงคโปร์ ส่งผลให้ปัจจุบันบริษัทถือหุ้นในฟาลคอนร้อยละ 100 อีกทั้งจะเปลี่ยนชื่อเป็น PLANB Singapore การลงทุนในฟาลคอนเป็นโอกาสให้บริษัทได้นำความเชี่ยวชาญในการให้บริการสื่อโฆษณานอกที่อยู่อาศัยจากประเทศไทยขยายธุรกิจไปสู่ประเทศสิงคโปร์ให้ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วภายใต้ความเสี่ยงต่ำ อีกทั้งด้วยศักยภาพและแนวโน้มการเติบโตในประเทศสิงคโปร์อย่างต่อเนื่องและแรงสนับสนุนจากนโยบายของรัฐบาลจะช่วยผลักดันประเทศสิงคโปร์ให้เป็นเมืองหลวงแห่งกิจกรรมและความบันเทิงของเอเชีย ขณะที่ปัจจุบันฟาลคอนมีสื่อโฆษณานอกที่อยู่อาศัยในประเทศสิงคโปร์ทั้งหมด 49 จอ ประกอบด้วยสื่อ 3 ประเภท ได้แก่ สื่อดิจิทัล จำนวน 7 จอ สื่อภาพนิ่ง จำนวน 6 จอ และสื่อภายในร้านสะดวกซื้อ จำนวน 36 จอ ครอบคลุม 29 ร้านค้า ทั้งนี้ บริษัทมีแผนที่จะใช้เงินลงทุน (CAPEX) เพื่อการต่อยอดธุรกิจในประเทศสิงคโปร์เพิ่มเติมโดยการขยายเครือข่ายสื่อโฆษณามากขึ้น ไม่จำกัดการร่วมทุนกับบริษัท รวมถึงการปรับแพ็คเกจการขายให้มีประสิทธิภาพเพื่อตอบโจทย์แบรนด์สินค้าและรองรับการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในอนาคต นอกจากนี้ เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำในด้านสื่อโฆษณานอกที่อยู่อาศัยให้ไปไกลในระดับโลก บริษัทตัดสินใจเข้าลงทุนในสื่อโฆษณานอกที่อยู่อาศัยใจกลาง New York Times Square ซึ่งเป็นหนึ่งในจอที่มีอิทธิพลมากที่สุดในโลกด้วยความโดดเด่นของที่ตั้งและจำนวนนักท่องเที่ยวที่สัญจรกว่า 65 ล้านคนต่อปี และเกือบ 5 แสนคนต่อวัน ส่งผลให้ป้ายโฆษณาดังกล่าวกลายเป็นหนึ่งในป้ายโฆษณาที่เป็น Iconic สำคัญของโลก ซึ่งในแต่ละวันจะมีนักท่องเที่ยวโพสต์รูปรวมกว่า 243,000 โพสต์และมีการถ่าย Selfie ภายในบริเวณ Times Square ในทุกๆ 5 วินาที โดยบริษัทได้สิทธิร่วมบริหารจัดการพื้นที่จอทั้งหมด 3 จอ ประกอบไปด้วย จอ LED ขนาดใหญ่บนพื้นที่ 290 ตารางเมตร 1 จอ และจอ LED แฝดขนาดใหญ่บนพื้นที่รวมกัน 600 ตารางเมตร เป็นระยะเวลา 10 ปี สำหรับลูกค้าในเอเชียด้วยมูลค่าสัญญารวมประมาณ 1,000 ล้านบาท การลงทุนในครั้งนี้บริษัทมีความมุ่งมั่นที่จะเปิดประสบการณ์และต่อยอดธุรกิจอย่างไม่หยุดยั้ง พร้อมยกระดับนวัตกรรมของบริษัทแก่ผู้ชมทั่วโลกข้ามทวีปสู่ใจกลางนครนิวยอร์คหนึ่งในเมืองมหาเศรษฐกิจสำคัญของโลกไปพร้อมกับแพลนบีด้วยการนำเสนอและถ่ายทอดความเป็นไทย รวมถึงเพิ่มมูลค่าให้กับแบรนด์ที่ต้องการขยายฐานลูกค้าและตลาดไปสู่สากลผ่านนวัตกรรมสื่อโฆษณานอกที่อยู่อาศัยที่สร้างสรรค์และทันสมัยสู่สายตาผู้คนในเมืองและนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยจากการลงทุนในเมืองเศรษฐกิจชั้นนำทั้งสิงคโปร์และอเมริกาครั้งนี้ บริษัทเชื่อมั่นว่าจะสามารถช่วยเสริมสร้างรายได้ให้เป็นไปตามกลยุทธ์ของบริษัทได้อย่างแข็งแกร่งในอนาคต นอกจากนี้ บริษัทได้ทำการออกแพ็คเกจการขายใหม่ภายใต้ชื่อ “Continental Package” เพื่อสนับสนุนแบรนด์ที่ต้องการโปรโมทและขยายฐานลูกค้าไปในแต่ละประเทศทั่วโลก