บุณย์ญานุช บุญบำรุงทรัพย์

นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ายอดขายร้านกาแฟพันธุ์ไทย ปี 65 เติบโตแตะ 1,200 ล้านบาท โดยครึ่งปีแรกทำรายได้แล้วที่ 480 ล้านบาท หรือเติบโตเป็นเท่าตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และคาดว่าครึ่งปีหลังจะเติบโต 120% จากครึ่งปีแรก หลังจาก 2 เดือนแรกของไตรมาส 3/65 มีรายได้แล้ว 230 ล้านบาท สำหรับการเติบโตของกาแฟพันธุ์ไทยมาจากการขยายสาขาทั้งในและนอกสถานีบริการน้ำมัน โดยปี 66 บริษัทตั้งเป้าขยายสาขาให้ครบ 1,500 สาขาทั่วประเทศ จากปัจจุบันมีสาขาร้านกาแฟพันธุ์ไทยที่เปิดให้บริการกว่า 500 สาขา แบ่งเป็นสาขาที่อยู่ในสถานีบริการน้ำมัน 70% และสาขาที่อยู่นอกสถานีบริการ 30% โดยจากนี้ไปการขยายสาขาจะมุ่งเน้นการเปิดให้บริการบนทำเลใจกลางเมืองในย่านธุรกิจที่มีกำลังซื้อสูง ทั้งกรุงเทพและปริมณฑล เมืองท่องเที่ยว รวมไปถึงหัวเมืองตามจังหวัดต่างๆ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มคนทำงาน ขณะเดียวกันจะมุ่งเน้นขยายสาขาแฟรนไชส์ด้วยรูปแบบการลงทุนหลากหลายโมเดล เพื่อให้เหมาะสมกับแต่ละทำเลพื้นที่ นอกจากนี้ร้านกาแฟพันธุ์ไทยจะออกสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยจะเน้นความโดดเด่นและมีเอกลักษณ์แตกต่างจากคู่แข่ง โดยเฉพาะการชูวัตถุดิบของไทย รสชาติดี และหาทานได้ยาก มาทำเป็นเครื่องดื่ม เช่น ล่าสุดบริษัทได้ออกเครื่องดื่ม อย่าง ไทยดีเสริฐ ขนมไทยดื่มได้ ใช้วัตถุดิบลอดช่อง จาก จ.เชียงใหม่ และฝอยทอง จาก จ.อยุธยา เป็นต้น พร้อมกันนั้นบริษัทยังวางกลยุทธ์ทางการตลาดและการสื่อสารแบรนด์ผ่านช่องทางดิลิเวอรี่ โดยเน้นความสะดวกการเข้าถึงของลูกค้า เพิ่มการรับรู้ของแบรนด์ (Brand Awareness) และการมองเห็นของแบรนด์ให้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้ในปี 64 ยอดขายผ่านช่องทางดิลิเวอรี่เติบโตถึง 4 เท่า รวมถึงการนำข้อมูลลูกค้าจากบัตรสมาชิก Max Card และ Max Card Plus ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกมากกว่า 17 ล้านคนทั่วประเทศ มาเป็นเครื่องมือในการวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า เพิ่มยอดขาย และเพิ่มทั้งความถี่ของการเข้ามาใช้บริการในร้านกาแฟพันธุ์ไทยให้เพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ดีบริษัทยังมองโอกาสในการขยายสาขาไปต่างประเทศ โดยปัจจุบันบริษัทฯ ก็อยู่ระหว่างศึกษาการขยายไปในประเทศลาว และกัมพูชา คาดจะเห็นความชัดเจนได้หลังจากสถานการณ์ต่างๆ ในประเทศดังกล่าวดีขึ้น ด้านนางสาวบุณย์ญานุช บุญบำรุงทรัพย์ ที่ปรึกษาด้านแบรนด์ดิ้ง กาแฟพันธุ์ไทย กล่าวว่า ในครึ่งปีหลังนี้จะมีการ refresh แบรนด์พันธุ์ไทยใหม่ผ่านวิสัยทัศน์ของแบรนด์ที่เปรียบเสมือนเป็น "ดาวเหนือ" ในการทำให้เป็นแบรนด์กาแฟของ "คนไทยพันธุ์ใหม่" ที่มีความกล้าคิด กล้าทำ ในสิ่งใหม่ๆ รวมถึงการใช้ไอเดียความคิดสร้างสรรค์ต่างๆ ซึ่งเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าความกล้าที่จะคิดรวมถึงการใช้ชีวิตนอกกรอบจะสามารถช่วยสร้างสรรค์สิ่งดีๆ และมุมมองใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นกับประเทศไทยอย่างแน่นอน โดยล่าสุดบริษัททุ่มงบลงทุนด้านการตลาดกว่า 20 ล้านบาทออกแคมเปญ "เวลาเป็นไท" แคมเปญที่ได้ใจ "คนทำงาน" ในหลากหลายอาชีพ ได้มีโอกาสเข้ามาสัมผัสกับแคมเปญ เช่น การสนับสนุนให้พนักงานออฟฟิศชวนมาพักผ่อนด้วยการดื่มกาแฟในช่วง "เวลาเป็นไท" ซึ่งได้รับความร่วมมือจาก 3 พันธมิตรรายสำคัญ ได้แก่ AP Thailand, SEAC และ Shopee Food ในการร่วมแคมเปญเพื่อมอบเวลาเป็นไทกับพนักงานทุกคน ขณะเดียวกันบริษัทยังตั้งเป้ายอดขายกาแฟพันธุ์ไทยภายในปี 4-5 ปี (ปี 66-70) จะเติบโตแตะราว 4,700 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโตเฉลี่ย 40-50% ตามการขยายสาขาร้านกาแฟอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตั้งเป้าภายในระยะเวลาดังกล่าวจะเพิ่มเป็น 5,000 สาขา และภายในปี 70 จะมีสัดส่วนร้านกาแฟพันธุ์ไทยที่เป็นแฟรนไชส์ คิดเป็น 80% จากปัจจุบันอยู่ที่ 20%