ประกันภัยที่อยู่อาศัย

นายชนะพันธุ์ พิริยะพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ที คิว อาร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TQR เปิดเผยว่า บริษัทฯ ประเมินแนวโน้มการดำเนินธุรกิจในครึ่งหลังของปี 2567 ยังมีทิศทางที่ดี เนื่องจาก TQR มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยต่อรูปแบบใหม่ๆ ร่วมกับ บริษัท ทีคิวเอ็ม อัลฟา จำกัด (มหาชน) หรือ TQM ทั้งประกันสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุ, ประกันภัยศัลยกรรม, ประกันภัยที่อยู่อาศัย รวมถึงประกันภัยต่อสุขภาพและอุบัติเหตุส่วนบุคคล, ประกันภัยไซเบอร์, ประกันภัยความรับผิดของกรรมการและเจ้าหน้าที่บริหาร, ประกันภัยต่อการก่อการร้ายและภัยทางการเมือง และ ประกันรถยนต์ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง “แนวโน้มธุรกิจประกันภัยในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ คาดว่าจะมีการขยายตัวเพิ่มมากยิ่งขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา สอดรับกับธุรกิจประกันภัยที่มูลค่าของเบี้ยประกันภัยเกือบ 60% จะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง จากนโยบายของภาครัฐที่ออกมาช่วยสนับสนุน ทั้งการประกันภัยพืชผลทางเศรษฐกิจ ภาคการท่องเที่ยวที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น ความนิยมในการใช้รถยนต์ EV มีมากขึ้น รวมถึง ประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุแบบเต็มรูปแล้ว ทำให้มีความต้องการทำประกันภัยสุขภาพเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีของธุรกิจนายหน้าประกันภัยต่อ ประกอบกับบริษัทร่วมทุนที่มีรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง จึงมั่นใจว่า ปัจจัยเหล่านี้จะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยผลักดันให้ผลงานในปีนี้เติบโตได้ตามแผนที่วางไว้” นายชนะพันธุ์ กล่าว นางยุพเรศ พิริยะพันธุ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TQR กล่าวว่า ธุรกิจประกันภัยไซเบอร์ ที่ทำร่วมกับ บริษัท อัลฟ่าเซค จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุน โดย TQR ถือหุ้นในสัดส่วน 30% เดินหน้าพัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อมาตรฐานด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ และขยายไปยังกลุ่มลูกค้ารายใหม่เพิ่มเติม เพื่อเพิ่มโอกาสสร้างรายได้อย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มอุตสาหกรรมประกันภัยที่มีศักยภาพการเติบโตสูง อุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ อุตสาหกรรม Healthcare กลุ่มธุรกิจ Payment และ Merchant ขนาดใหญ่ เป็นต้น และคาดว่า จะมีการทำโครงการความมั่นคงปลอดภัยของหน่วยงานรัฐภายในปี 2568 ในส่วนของธุรกิจให้บริการ (Service) ของบริษัท อาร์สแควร์ จำกัด มุ่งเน้นการให้บริการด้าน Learning Management System (LMS) และต่อยอดด้วยการพัฒนาหลักสูตรอบรมต่าง ๆ ที่ให้ความสำคัญในเรื่องของการ Upskill และ Reskill ให้กับพนักงานในธุรกิจประกันภัย พร้อมทั้ง ยังมองหาโอกาสการให้บริการด้านการพัฒนาความรู้ให้กับกลุ่มลูกค้ารายใหม่ๆ ในอีกหลายธุรกิจอีกด้วย ซึ่งปัจจุบันมีลูกค้าใช้บริการแล้วจำนวน 4 ราย และอยู่ระหว่างการเจรจาเพิ่มเติมอีกหลายรายคาดว่าจะเห็นความชัดเจน 1-2 ราย ภายในปีนี้ สำหรับแผนการเข้าลงทุนในรูปแบบ M&A กับธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหลัก ขณะนี้อยู่ระหว่างการเข้าศึกษาความเป็นไปได้ทางธุรกิจ คาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในปีนี้ 1-2 ราย อนึ่งผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 2567 (สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2567) บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 54.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.88% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน มีกำไรสุทธิ 51.91 ล้านบาท และมีรายได้รวม 141.01 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.14% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน มีรายได้รวม 130.39 ล้านบาท ขณะที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ของปี 2567 มีรายได้รวม 60.81 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 23.93 ล้านบาท นอกจากนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้กับผู้ถือหุ้นเป็นเงินสด ในอัตราหุ้นละ 0.184 บาท รวมเป็นเงินปันผลทั้งสิ้น 42.32 ล้านบาท และกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 23 สิงหาคม 2567 และกำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 6 กันยายน 2567