ประเทศปลอดภัย

สมาชิกของสหภาพยุโรป (อียู) ทำการลงมติในวันอังคารที่ 30 มิ.ย.63 เพื่ออนุมัติรายชื่อ “ประเทศปลอดภัย” จากโควิด-19 นอกอียู ที่นักท่องเที่ยวและนักธุรกิจจากกลุ่มประเทศดังกล่าวจะสามารถเดินทางเข้าสู่อียูได้ ทั้งนี้ อียูได้ทำการอนุมัติ 15 ประเทศในรายชื่อดังกล่าว ซึ่งได้แก่ ไทย จีน แอลจีเรีย ออสเตรเลีย แคนาดา จอร์เจีย ญี่ปุ่น มอนเตเนโกร โมรอกโก นิวซีแลนด์ รวันดา เซอร์เบีย เกาหลีใต้ ตูนิเซีย และอุรุกวัย โดยนักท่องเที่ยวจากประเทศเหล่านี้จะสามารถเดินทางเข้าสู่ EU ในวันนี้ (1 ก.ค.) อย่างไรก็ดี นักท่องเที่ยวจากจีนจะได้รับอนุมัติให้เดินทางมายัง EU ก็ต่อเมื่อจีนยอมเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวจากอียู อียูระบุว่า การตัดสินใจอนุมัติรายชื่อประเทศดังกล่าว ได้อิงจากสถานการณ์ความปลอดภัยด้านสุขภาพของประเทศที่ได้รับการอนุมัติ และจะมีการทบทวนทุก 2 สัปดาห์ นอกจากนี้ อียูยังกำหนดกฎเกณฑ์ว่า ทุกประเทศในรายชื่อดังกล่าวจะต้องมีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในช่วง 14 วันที่ผ่านมา และอัตราผู้ติดเชื้อเมื่อเทียบประชากร 100,000 ราย ต้องใกล้เคียงหรือต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของ อียูรวมทั้งแนวโน้มจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่จะต้องคงที่ หรือลดลงเมื่อเทียบกับในช่วง 14 วันที่ผ่านมา และอียูจะพิจารณารวมถึงมาตรการของรัฐบาลในการรับมือการแพร่ระบาดของโควิด-19 สหรัฐ บราซิล และรัสเซีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 มากที่สุด 3 อันดับแรกของโลก ไม่อยู่ในรายชื่อประเทศดังกล่าว ทั้งนี้ การลงมติเพื่ออนุมัติรายชื่อ “ประเทศปลอดภัย” ของ EU มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของอียู โดยเฉพาะประเทศในยุโรปตอนใต้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างไรก็ดี การตัดสินใจอนุมัติรายชื่อ “ประเทศปลอดภัย” ของอียูครั้งนี้ ถือเป็นข้อตกลงที่ไม่มีผลผูกพันแต่อย่างใด ซึ่งหมายความว่า ประเทศสมาชิกอียูยังคงสามารถเปิดพรมแดนให้แก่ประเทศใดก็ตามที่รัฐบาลประเทศนั้นเห็นสมควร ขณะที่คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของอียูยืนยันว่า ในที่สุดแล้ว การตัดสินใจในเรื่องนี้จะขึ้นอยู่กับแต่ละชาติในอียู แต่ EC แนะนำให้การเปิดประเทศควรดำเนินไปภายใต้ความร่วมมือของสมาชิกอียู เพื่อหลีกเลี่ยงความวุ่นวายที่อาจเกิดขึ้น