ประเทศปากีสถาน

พ.ท. พญ.จัณจิดา รัตนภูมิภิญโญ กรรมการบริษัท บริษัท อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) หรือ RBF ร่วมนำเสนอข้อมูลในงานบริษัทจดทะเบียนพบผู้ลงทุน (Opportunity Day) กับแผนธุรกิจในปี 2568 โดยบริษัทวางเป้าหมายรายได้เติบโต 10-15% จากปี 2567 โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากยอดขายในประเทศและต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สำหรับตลาดต่างประเทศในปีนี้ บริษัทประเมินว่ายังมีโอกาสในการเติบโตสูง โดยเฉพาะประเทศอินโดนีเซีย และเวียดนาม ที่มีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ใช้กำลังการผลิตได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยบริษัทมีแผนขยายกำลังการผลิตในกลุ่มเกล็ดขนมปังทั้งสองประเทศ เพื่อรองรับการเติบโต ขณะที่ประเทศรัสเซีย ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดี โดยในปี 2568 บริษัทได้ดำเนินการส่งมอบสินค้าเรียบร้อยแล้ว และคาดว่าคำสั่งซื้อจะเติบโตต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีคำสั่งซื้อจากประเทศปากีสถานเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่เข้ามาส่งเสริมสร้างการเติบโตให้กับบริษัท ส่วนความคืบหน้า การก่อสร้างโรงงานในประเทศอินเดีย เบื้องต้นคาดว่าจะเปิดดำเนินการช่วงกลางปี 2568 หากแล้วเสร็จจะทำให้บริษัทสามารถขยายตลาดเกล็ดขนมปังได้เร็วยิ่งขึ้น เนื่องจากมีต้นทุนที่ดีกว่าการผลิตในประเทศไทย ส่งผลให้กำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งนี้ บริษัทวางเป้าหมายสัดส่วนรายได้ในต่างประเทศในช่วง 3 ปีนับจากนี้ จะปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 30% และปรับเพิ่มขึ้นเป็น 40-50% ในช่วง 5 ปี เนื่องจากตลาดต่างประเทศมีโอกาสการเติบโตสูงตามคำสั่งซื้อที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับบริษัทยังมองหาโอกาสขยายฐานลูกค้าต่างประเทศเพิ่มขึ้น เพื่อสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในอนาคต ด้าน นายสุรนาถ กิตติรัตนเดช ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบัญชีและการเงิน RBF กล่าวถึงตลาดในประเทศว่า ยังมีโอกาสในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าที่มีแผนขยายการเติบโต และขยายตลาดไปสู่ต่างประเทศ ทำให้บริษัทจะรับอานิสงส์ในเชิงบวกตามไปด้วย รวมถึงผลิตภัณฑ์น้ำหวานเข้มข้น HELLO 4EVE ที่คาดว่าจะเติบโตอย่างโดดเด่น เนื่องจากการผลิตที่มีความพร้อมมากขึ้น และมีกระแสตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทได้ขยายไลน์ผลิตโรงงานแห่งใหม่ ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อรองรับการผลิตในกลุ่ม Flavour และ ผลิตภัณฑ์น้ำหวานเข้มข้น ที่เข้ามาส่งเสริมการเติบโตของธุรกิจตามคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้น ทั้งจากลูกค้าเดิมและรองรับลูกค้าใหม่ โดยคาดจะเริ่มทดสอบการผลิตในช่วงไตรมาสที่ 3 ซึ่งโรงงานแห่งนี้จะได้รับสิทธิประโยชน์จาก BOI และคาดว่าจะเริ่มส่งผลในช่วงปลายปี 2568 “ปี 2568 ถือเป็นปีที่บริษัทจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากจะได้รับปัจจัยสนับสนุนจากตลาดต่างประเทศ ที่มีอัตราการเติบโตอย่างโดดเด่น ส่วนตลาดในประเทศยังมีโอกาสเติบโตไปตามกลุ่มลูกค้าที่มีแผนเติบโตและขยายตลาดไปต่างประเทศ หนุนให้บริษัทได้รับอานิสงส์ตามไปด้วย จึงเชื่อมั่นว่าภาพรวมทั้งปี 2568 จะมีรายได้เติบโต 10-15%” นายสุรนาถ กล่าว