ผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านวิศวกรรมโยธาและธรณีเทคนิค

นายชวลิต ถนอมถิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ RT ผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านวิศวกรรมโยธาและธรณีเทคนิค เปิดเผยว่าทิศทางธุรกิจช่วงไตรมาส 4/66 มีแนวโน้มเติบโต โดยบริษัทมีการรับรู้รายได้จากงานดำเนินงานโครงการก่อสร้างในมืออย่างต่อเนื่องซึ่งส่วนใหญ่เป็นงานใหม่ที่ได้ปรับราคาต้นทุนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยบริษัทยังวางแผนการส่งมอบงานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้ทำการส่งมอบงานจำนวน 2 โครงการ คือ โครงการฟื้นฟูทางหลวงหมายเลข 2196 ตอนนางั่ว-ทุ่งสมอ ตำบลริมสีม่วง อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ มูลค่า 47.02 ล้านบาท และ โครงการปรับปรุงดินชั้นฐานรากอ่างเก็บน้ำมรสวบ ตำบลชัยเกษม อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มูลค่า 102.65 ล้านบาท สำหรับโครงการอื่นๆ ที่ยังคงเป็นงานราคาต้นทุนเดิม บริษัทคาดว่าจะสามารถทยอยส่งมอบงานให้แล้วเสร็จได้ภายในปี 67 ทั้งนี้จากปริมาณการเข้ารับงานที่เพิ่มขึ้นและส่งมอบงานอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ปัจจุบันบริษัทมีมูลค่างานในมือ (Backlog) ณ วันที่ 30 ก.ย. 66 อยู่ที่ 9,273 ล้านบาท โดยแบ่งสัดส่วนงานก่อสร้างเป็นงานก่อสร้างอุโมงค์และโครงสร้างใต้ดิน 58%, งานก่อสร้างเขื่อนและระบบชลประทาน 20%, รวมไปถึงงานก่อสร้างท่อลอดใต้ดินวิธีดันท่อและวิธีเจาะและดึงท่อ 8%, งานก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำ 5% และงานก่อสร้างอื่นๆ อาทิ งานก่อสร้างถนนและสะพาน และงาน Slope Protection 9% อย่างไรก็ตามบริษัทยังมีแผนเข้าประมูลงานโครงการก่อสร้างทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง “โดยบริษัทยังคงพัฒนาประสิทธิภาพการทำงานให้ดียิ่งขึ้น ทั้งการดำเนินงานก่อสร้างให้มีความคืบหน้าเป็นไปตามแผน ควบคู่ไปกับการลดต้นทุนและขั้นตอนที่ไม่จำเป็นในการทำงาน เพื่อรักษาความสามารถในการทำกำไรให้อยู่ในระดับที่ดี พร้อมประเมินสถานการณ์และเตรียมแผนการรับมือกับปัจจัยที่จะส่งผลต่ออุตสาหกรรมก่อสร้างเป็นระยะ อาทิ ราคาวัสดุก่อสร้าง ซึ่งปัจจุบันยังคงมีแนวโน้มคงที่หรือเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว” นายชวลิต กล่าว ขณะที่ผลประกอบการงวด 9 เดือน ปี 66 บริษัทมีรายได้รวม 2,334 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,696 ล้านบาท จำนวน 638 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 27.33% และ มีกำไรสุทธิ 39 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 70 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 279.49% นอกจากนี้ผลประกอบการไตรมาส 3/66 บริษัทมีรายได้รวม 874 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 605 ล้านบาท จำนวน 269 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 30.78% และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 56 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 45 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 180.36% จากการพัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินงานก่อสร้างโดยมุ่งเน้นการลดสัดส่วนงานที่เป็นต้นทุนเดิมให้เหลือเพียงเล็กน้อยรวมถึงการส่งมอบงานได้ตามกำหนดเวลา