พญ.จัณจิดา รัตนภูมิภิญโญ

นายสุรนาถ กิตติรัตนเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท อาร์ แอนด์ บี ฟู้ดซัพพลาย จำกัด (มหาชน) หรือ RBF เปิดเผยถึงภาพรวมแนวโน้มผลประกอบการของบริษัทฯ ในงาน OPPORTUNITY DAY จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในวันที่ 16 พฤศจิกายน 2566 ว่าผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2566 (สิ้นสุด 30 กันยายน 2566) บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและให้บริการอยู่ที่ 1,159.04 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 165.40 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 16.65% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 993.64 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 209.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 90.10% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 110.14 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯ ยังสามารถรักษาผลประกอบการให้อยู่ในระดับที่ดีเยี่ยม ขณะที่ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกของปี 2566 มีรายได้จากการขายและให้บริการอยู่ที่ 3,270.85 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 314.63 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 10.64% จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 2,956.22 ล้านบาท ซึ่งมาจากธุรกิจในต่างประเทศโดยเฉพาะในประเทศจีนเติบโตแข็งแกร่งนำประเทศอื่นๆ โดยมีมูลค่าการส่งออกเป็นจำนวนมาก ส่วนในประเทศอินเดียเติบโตขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งมียอดขายขึ้นมาอยู่ที่ 37.69 ล้านบาท และอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit) ทำให้ผลประกอบการปรับตัวดีขึ้น สาเหตุสำคัญมาจากสินค้าที่มีสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้ (value added) มีสัดส่วนที่เพิ่มมากขึ้นเมื่อเทียบกับรายได้รวม และราคาต้นทุนปรับตัวลดลงมาอยู่ในระดับต่ำ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับตลาดอินโดนีเซีย และเวียดนาม เนื่องจากเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงรวมถึงตลาดในประเทศจีน อินโดนีเซีย และเวียดนาม ยังครองตลาดเป็นส่วนใหญ่ ทั้งนี้ในประเทศอินเดียปรับตัวได้เกินเป้าที่ตั้งไว้ 50 ล้านบาท คาดว่าปีนี้ยอดขายน่าจะแตะ 100 ล้านบาท สำหรับธุรกิจสารเคลือบอาหาร (Food Coating), สารตกแต่งรสชาติอาหาร (Flavoring) รวมถึงสารแต่งกลิ่นและสี (Fragrance&Coloring) มีอัตราการเติบโตเร็วกว่ากลุ่มอื่น “สำหรับปีนี้มีโรงงานทั้งหมด 12 แห่ง ซึ่งเตรียมเปิดอีก 1 แห่งที่ประเทศอินเดียที่เริ่มมีการก่อสร้างแล้ว คาดว่าจะอัพเดตข้อมูลเพิ่มเติมได้ในไตรมาส 4/2566 และอีก 2 แห่งที่ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งเกือบจะสมบูรณ์100% แล้ว ทั้งนี้ได้มีการติดตั้งเครื่องจักร พร้อมดำเนินงานแล้วจะเหลือในส่วนของออฟฟิศที่ยังไม่เรียบร้อย โดยปัจจุบันได้เริ่มทดลองผลิต ซึ่งจะขยายกำลังการผลิตในอนาคต” นายสุรนาถ กล่าว ด้าน พญ.จัณจิดา รัตนภูมิภิญโญ กรรมการ RBF เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจบริษัทฯทั้งปี 2566 ว่ายังเติบโตได้ดีจากยอดขายในประเทศจีน อินเดีย และอินโดนีเซีย พร้อมกับบริษัทยังสามารถจัดการบริหารต้นทุนได้ดีขึ้น ดังนั้นคาดว่าปีหน้าจะบริหารได้ดีกว่าเดิม และพยายามจะทำอัตรากำไรขั้นต้นให้สูงขึ้นตั้งเป้าไว้ที่ 2-3% ส่วนโปรเจคที่เข้ามาใหม่ในปีนี้ อย่างสารเคลือบอาหาร (Coating) เติบโตในประเทศที่ตั้งฐานการผลิต เช่น อินโดนีเซีย เวียดนาม ส่วนที่ส่งออกไปอเมริกาค่อนข้างปรับตัวลง เนื่องจากค่าเงินฝั่งยุโรป และอเมริกาแข็งค่า ขณะที่ในส่วนของสารตกแต่งรสชาติอาหาร (Flavor) มียอดขายเพิ่มขึ้น และ Pet Food เริ่มขายแล้ว อยู่ในช่วงของการพัฒนา (develop) กับทางลูกค้า ทั้งนี้บริษัทคาดหมายว่าในปี 2567 ประเทศที่จะมุ่งทำการตลาด ได้แก่ อินเดีย อินโดนีเซีย จีน อย่างต่อเนื่อง โดยจะมุ่งเน้นไปที่ธุรกิจเคลือบอาหาร (Coating) และตกแต่งกลิ่น (Flavor) เป็นหลัก ส่วนธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง (Pet Food) บริษัทฯ ตั้งเป้าที่จะสร้างฐานลูกค้าในประเทศให้แข็งแรงก่อนในส่วนของกลยุทธ์ทางการค้านั้นมองว่าการพยายามเข้าใจลูกค้า เข้าใจผู้บริโภคยังคงเป็นสิ่งสำคัญ “อย่างไรก็ดีทิศทางธุรกิจในไตรมาส 4/2566 และครึ่งปีหลังของบริษัทฯ นั้นคาดว่าจะเติบโตขึ้นและทำผลงานได้ดีกว่าครึ่งปีแรก โดยตลอดทั้งปีตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 10–15%” พญ.จัณจิดา กล่าวทิ้งท้าย