พรีวิวงบแบงก์ไตรมาส 2/67

“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจและรวบรวมข้อมูลแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/67 หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ (BANK) มานำเสนอ เนื่องจากเป็นกลุ่มธุรกิจแรกที่จะประกาศโดยครั้งนี้อ้างอิงข้อมูลจากบทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) หรือ KSS โดยระบุไว้ดังนี้ ภาพรวมกำไรสุทธิไตรมาส 2/67 ของกลุ่มธนาคารคาดว่าวันที่ 12-19 ก.ค. 67 กลุ่มธนาคาร 7 แห่งที่ศึกษาจะรายงานกำไรสุทธิรวมที่ 5.09 หมื่นล้านบาท ลดลง 3% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลง 7% เทียบไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจาก i) รายได้ดอกเบี้ย (NII) ลดลง 1% เทียบไตรมาสก่อนหน้า จาก NIM ที่ 3.10% ลดลงจากไตรมาส 1/67 ที่ 3.15% จากการ repricing fixed deposit นอกจากนั้นสินเชื่อรวมลดลง 0.6% เทียบไตรมาสก่อนหน้า กดดันจากทุกกลุ่มสินเชื่อ ทั้งสินเชื่อภาคธุรกิจ สินเชื่อภาครัฐ สินเชื่อ SME และสินเชื่อรายย่อย ,ii) รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย (Non-NII) ลดลง 9% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลง 4% เทียบไตรมาสก่อนหน้าจาก Bancassurance รายได้ค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุน และเงินลงทุน และiii) ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (OPEX) เพิ่มขึ้น 7% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 2% เทียบไตรมาสก่อนหน้าจากค่าใช้จ่ายทางด้านบุคคล และค่าใช้จ่ายทาง IT รวมถึง KKP มีรับรู้ผลขาดทุนรถยึดเพิ่มขึ้น ด้านคุณภาพสินทรัพย์ Gross NPL เพิ่มขึ้น 1% เทียบไตรมาสก่อนหน้า ทำให้ NPL Ratio อยู่ที่ 3.68% เพิ่มจากไตรมาส 1/67 ที่ 3.61% จากความไม่แน่นอนในการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ทำให้ความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ลดลง อย่างไรก็ตามธนาคารยังมีความแข็งแกร่งในด้านความเพียงพอเรื่องการตั้งสำรองต่อพอร์ต Coverage Ratio ที่ 179% ใกล้กับไตรมาส1/67 ที่ 182% ทั้งนี้หากพิจารณารายละเอียดของแต่ละธนาคารธนาคารรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/67 เติบโต เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนและเทียบไตรมาสก่อนหน้า มีเพียงธนาคารเดียวคือ ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TTB มีกำไร 5.42 พันล้านบาท โต 19% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และโต 2% เทียบไตรมาสก่อนหน้า สำหรับธนาคารรายงานกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลงเทียบไตรมาสก่อนหน้า คือธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK อยู่ที่ 1.19 หมื่นล้านบาท โต 8% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน, ลดลง 12% เทียบไตรมาสก่อนหน้า และธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB กำไรอยู่ที่ระดับ 1.03 หมื่นล้านบาท โต 1% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลง 7% เทียบไตรมาสก่อนหน้า ส่วนธนาคารรายงานกำไรสุทธิลดลงเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และไตรมาสก่อนหน้า คือ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL มีกำไร 1.00 หมื่นล้านบาท ลดลง 12% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลง 5% เทียบไตรมาสก่อนหน้า ส่วน SCB มีกำไร 1.05 หมื่นล้านบาท ลดลง12% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลง 7% เทียบไตรมาสก่อนหน้า ) ด้านธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ KKP มีกำไร 1.10 พันล้านบาท ลดลง 22% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลง 27% เทียบไตรมาสก่อนหน้า) และ บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TISCO มีกำไร 1.64 พันล้านบาท ลดลง 12% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลง 5% เทียบไตรมาสก่อนหน้า อย่างไรก็ตามได้ปรับประมาณการกำไรสุทธิกลุ่มแบงก์ปี 67-69 ลงปีละ 0.3%,0.4% และ 0.4% อยู่ที่ 2.07 แสนล้านบาท , 2.16 แสนล้านบาท และ 2.24 แสนล้านบาท ตามลำดับเพราะรายได้รวมน้อยกว่าคาด โดยธนาคารที่มีการปรับประมาณการ ราคาเป้าหมายและคำแนะนำดังนี้ KKP ลงปีละ(4-7%) เพราะรายได้รวม และปรับราคาเป้าหมายเป็น 48 เดิม 55 บาท และปรับคำแนะนำเป็นNEUTRAL เดิม TRADING BUY ส่วน TISCO ลงปีละ (5-6%) เพราะรายได้รวม และปรับราคาเป้าหมายเป็น 95 บาท เดิม 105 บาท นอกจากนี้ธนาคารมีความเสี่ยงเรื่องคุณภาพสินทรัพย์มากขึ้นจากความไม่แน่นอนในการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจมองว่ากลุ่มเปราะบางอย่างรายย่อย และ SME เป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงมากสุด รวมถึงปัญหาการผิดนัดชำระหุ้นกู้ของบริษัท อย่างไรก็ตามกลุ่มธนาคารมีปันผลทีน่าสนใจ dividend yield คาดที่ 3-10% ต่อปี โดยครึ่งแรกปีนี้คาดจ่ายปันผล dividend yield ที่ 0.4-3.2% โดยชอบ KTB, TTB มากสุด ตามด้วย KBANK, BBL,บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB, TISCO และ KKP