พายุเฮอร์ริเคนไอด้า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (14 ก.ย. 2564) หุ้นในเครือปตท. ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นอย่างคึกคักนำโดย PTTEP, PTT, PTTGC, OR รับราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูง อีกทั้งแรงหนุนจากทั้งความต้องการน้ำมันดิบโลกที่มากขึ้นตามเศรษฐกิจฟื้นตัว ผสานอุปทานที่ยังไม่กลับเข้าสู่ภาวะปกติหลังกำลังการผลิตเผชิญเฮอร์ริเคนไอด้า สำหรับราคาหุ้น บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP ณ เวลา 11.50 น. อยู่ที่ระดับ 111.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท หรือ 2.78% โดยทำจุดสูงสุดที่ 111.50 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 109.00 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 809.39 ล้านบาท เช่นเดียวกับราคาหุ้นบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)หรือ PTT ณ เวลา 11.50 น. อยู่ที่ระดับ 38.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 1.31% โดยทำจุดสูงสุดที่ 39.00 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 38.25 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.53 พันล้านบาท เหมือนกับราคาหุ้น บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC ณ เวลา 11.50 น. อยู่ที่ระดับ 60.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ 0.41% โดยทำจุดสูงสุดที่ 61.25 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 60.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 605.28 ล้านบาท ขณะเดียวกันราคาหุ้นบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ณ เวลา 11.50 น. อยู่ที่ระดับ 29.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ 0.86% โดยทำจุดสูงสุดที่ 29.50 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 29.00 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 222.95 ล้านบาท ทั้งนี้ปัจจัยที่ส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นนั้น คาดได้รับอานิสงส์จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นโดยแหล่งผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกยังคงได้รับผลกระทบจากพายุเฮอริเคนไอดา นอกจากนี้ตลาดยังคาดการณ์ว่าการผลิตน้ำมันในรัฐเท็กซัสอาจจะได้รับผลกระทบจากพายุโซนร้อนนิโคลัสที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น และทิศทางความต้องการใช้น้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นด้วย อนึ่งบริษัท หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ (14 ก.ย. 2564) โดยมีมุมมองต่อราคาน้ำมันดิบว่ายังคงแกว่งขึ้น ซึ่งวานนี้น้ำมันดิบเบรนท์ปิดที่ 73.51 เหรียญ มีแรงหนุนจากทั้งความต้องการน้ำมันดิบโลกที่มากขึ้นตามเศรษฐกิจฟื้นตัว ผสานอุปทานที่ยังไม่กลับเข้าสู่ภาวะปกติหลังกำลังการผลิตเผชิญเฮอร์ริเคนไอด้า คาดยังเป็นบวกต่อการเก็งกำไรกลุ่มพลังงาน ทั้งนี้แนะนำ “ซื้อ” PTTEP ราคาเป้าหมาย 157 บาท