พิสิฐ ทางธนกุล

หลังจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ลดอัตราดอกเบี้ยลงมา 0.25% เหลือ 2.00% ส่งผลหุ้นไทยบวกรับทันที 24-25 จุด แต่พอมาวานนี้ ดัชนีกลับปิดลบ 15.41 จุด สะท้อนให้เห็นว่า นักลงทุนทุกกลุ่มเล่นหุ้นกันแบบ “ตีหัวเข้าบ้าน” คือพอมีกำไร จะขายออกทันที ส่วนกลุ่มนักลงทุนระยะปานกลางถึงยาวที่จะเข้าเล่นหุ้นในช่วงเวลาแบบนี้ จะต้องคัดหุ้นกันดี ๆ ดูกราฟมีเสถียรภาพไหม ดูแนวโน้มผลประกอบการ ทิศทางของธุรกิจนั้น ๆ ดูเงินสดในมือ แล้วหากตัดสินใจซื้อ จะต้องเข้าซื้อแบบ “ทยอยซื้อ” ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK แจ้งจ่ายเงินปันผลงวดครึ่งปีหลังอีก 8.00 บาท หลังจากจ่ายไปแล้วงวดระหว่างกาล 1.50 บาท ส่งผลทั้งปีจ่าย 9.50 บาท แต่หากจะดูเฉพาะงวดครึ่งปีหลัง 8.00 บาท มาเทียบกับราคา ณ ปัจจุบันที่เคลื่อนไหวประมาณ 151.00 บาท +/- เล็กน้อย จะได้อัตราผลตอบแทนเป็นเงินปันผลราว ๆ 5.1-5.3% เชียวนะ น่าสนใจไม่น้อย แต่ก็ต้องทยอยซื้อกันไปนั่นแหละ ส่วนหุ้นใน กลุ่มธนาคาร ที่น่าสนใจ หุ้นอื่น ๆ นั้น หากราคาลงมาลึกใกล้แนวรับ น่าจะซื้อเล่นรอบได้ ก่อนจะขึ้นเครื่องหมาย XD เพื่อจ่ายเงินปันผล เช่น BBL และ SCB ส่วน TTB ราคาที่น่าสนใจ ต้องรอให้หลุด 1.90 บาท หรือมาที่ระดับ 1.87-1.88 บาท จะเป็นโซนการรับที่ถือว่าดีมาก แต่เกรงว่า จะไม่หล่นลงมาที่ระดับดังกล่าวน่ะสิ ดังนั้น ที่บริเวณ 1.90-1.92 บาท น่าจะพอ “กล้อมแกล้ม” ทยอยซื้อได้ แต่เผื่อเม็ดเงินกรณีราคาลงมาต่ำกว่า 1.902 บาท ไว้ด้วย ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น หรือ SAWAD วานนี้ราคาหุ้นร่วงแรงมาก -16.67% ปิด 33.75 บาท มูลค่าการซื้อขายเพิ่มขึ้นมาถึง 1,036 ล้านบาท หลังจากแจ้งงบการเงินไตรมาส 4/2567 ออกมาแล้วต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ บวกกับมีการจ่ายปันผลเป็นเงินสด 0.04 บาททต่อหุ้น และปันผลเป็นหุ้นอีก 10 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นปันผล ทำให้เกิดการ “ไดลูทชั่น” ประมาณ 9% ทีนี้เมื่อถามว่า แล้วราคาที่ลงแรงมาจากเหตุใดมากกว่ากันละ? คำตอบคือ “พอ ๆ กัน” นั่นแหละ ทางเทคนิคแนวรับถัดไป 32.00 บาท แต่หากหลุดจากแนวรับนี้ น่าจะต้องไปรอรับที่บริเวณ 27.00-28.00 บาท โน่นเลย พิสิฐ ทางธนกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท PwC ประเทศไทย แจ้งว่า ได้เดินหน้ายกระดับทักษะด้านดิจิทัลให้กับบุคลากรผ่านการลงทุนกว่า 9 ลบ. เพื่อปรับปรุงหลักสูตร digital upskilling ร่วมกับผู้ให้บริการแพลตฟอร์มการเรียนออนไลน์ชั้นนำ หวังปิดช่องว่างด้านทักษะดิจิทัลของหุ้นส่วนและพนักงานให้สำเร็จภายในสองถึงสามปีข้างหน้า เพื่อก้าวสู่การเป็นองค์กรที่มีมนุษย์เป็นศูนย์กลางในการขับเคลื่อนข้อมูลและเทคโนโลยีที่ทันสมัยอย่างแท้จริง บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย หรือ SCC ล่าสุดราคามาอยู่ที่ 127.50 บาท แล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ หรือก่อนที่ราคาจะหลุด 200 บาทลงมานั้น เคยบอกไว้แล้วว่า หากหลุดจากระดับนี้ ราคามีโอกาสจะลงมาที่ 150 บาทได้ และหากหลุด 150 บาทลงมาอีก น่าจะมาที่ 100 บาท ได้ไม่ยาก เพราะหากดูจากธุรกิจปิโตรเคมีในขณะนี้ ยังไม่เห็นการฟื้นตัวที่ชัดเจน แม้ว่าธุรกิจปูนซิเมนต์ที่เริ่มดีขึ้นมาบ้าง จึงเป็นประเด็นที่นักลงทุนค่อนข้างกังวล ส่วนกำไรสุทธิในช่วง 3 ปีหลังเป็นดังนี้ ปี 2565 กำไร 21,382.35 ล้านบาท ปี 2566 กำไร 25,914.98 ล้านบาท และปี 2567 กำไรลงมาเหลือเพียง 6,341.64 ล้านบาท เท่านั้น คาเฟอีน