ฟ้องศาล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ในวันนี้ (23 พ.ย. 66) เวลา 9.30 น. มีวาระสำคัญ คือ ระเบียบวาระที่ 4 เรื่องค้างการพิจารณา การแต่งตั้งบุคคลให้ดำรง ตำแหน่ง เลขาธิการกสทช. คนใหม่ โดยคาดว่าจะเป็น นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการเลขาธิการและรองเลขาธิการ กสทช.คนปัจจุบัน ที่ค้างการพิจารณามาจากการประชุมครั้งก่อน ขณะวันเดียวกันนี้เวลาประมาณ 9.00 น. ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง จะมีการพิจารณารับไต่สวนคดี กรณีที่นายไตรรัตน์ ได้เป็นโจทก์ฟ้อง พล.อ.ท.ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ เป็นจำเลยที่ 1 น.ส.พิรงรอง รามสูต เป็นจำเลยที่ 2 นายศุภัช ศุภชลาศัย เป็นจำเลยที่ 3 นายสมภพ ภูริวิกรัยพงศ์ เป็นจำเลยที่ 4 ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ จากปรากฎการณ์ดังกล่าว น่าสนใจว่าการเลือกเลขาธิการกสทช.คนใหม่ อาจต้องรอดูผลการพิจารณาของศาลฯ ก่อนว่าจะออกมาเป็นอย่างไร เนื่องจากมีผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย ให้ความเห็นเกี่ยวกับการตั้งเลขาฯ คนใหม่ ไว้ว่า ถ้าหากศาลฯ ประทับรับฟ้องตามที่นายไตรรัตน์เป็นโจทย์ยื่นฟ้องบอร์ดกสทช.ทั้ง 4 คนแล้ว ผู้ที่ถูกฟ้องฯ ทั้งหมดจะไม่สามารถเข้าร่วมลงมติที่เกี่ยวข้องกับนายไตรรัตน์ได้อีก ส่วนวาระอื่นสามารถเข้าร่วมได้หมด โดยบอร์ดทั้ง 4 คนนี้ถือว่าเป็นคู่ปฏิปักษ์กับผู้ฟ้องคดี แต่สามารถโหวตเรื่องอื่นได้ ตามพ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 มาตรา 16 ที่ระบุว่า ถ้าเป็นปฏิปักษ์ต่อกันให้กรรมการที่เป็นปฏิปักษ์ต้องออกจากห้องประชุม ด้าน พลอากาศโท ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ บอร์ดกสทช. เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ว่า ตนจะเข้าร่วมประชุมบอร์ดในวันนี้ ( 23 พ.ย.) และหากมีการพิจารณาวาระตำแหน่งเลขาธิการกสทช. คนใหม่ ก็พร้อมร่วมโหวต แต่ที่ผ่านมาพบว่าไม่เคยพิจารณาถึงวาระดังกล่าวมานานกว่า 3 เดือนแล้ว และประธานบอร์ดก็ไม่เคยแจ้งรายชื่อว่าเป็นใคร แม้จะถามไปแล้วหลายครั้ง ส่วนกรณีที่ว่าหากศาลฯ รับคำไต่สวนกรณีที่นายไตรรัตน์ฟ้อง 4 บอร์ดกสทช. ซึ่งรวมตนอยู่ด้วย ก็ไม่ถือว่าหมดสิทธิ์โหวตในวาระการแต่งตั้งเลขาธิการกสทช.คนใหม่ (นายไตรรัตน์) เนื่องจากก่อนหน้านี้ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ก็รับไต่สวนคดีที่นายภูมิศิษฐ์ มหาเวสน์ศิริ รองเลขาธิการ กสทช. ยื่นฟ้องนายแพทย์สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธานกสทช.เป็นจำเลยในข้อหาเป็น เจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเช่นกัน แต่ประธานบอร์ดก็ยังเข้าประชุมได้ โดยเมื่อวันที่ 21พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางรับคดีไว้ไต่สวนมูลฟ้อง กรณีที่นายภูมิศิษฐ์ ยื่นฟ้อง นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธานกสทช.เป็นจำเลยในข้อหาเป็น เจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 พ.ร.บ.ประกอบ รัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172 ศาลได้ตรวจคำฟ้องแล้วเห็นควร ทั้งนี้ ศาลกำหนดนัดตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐานโดยเจ้าพนักงานคดี นัดไต่สวนมูลฟ้องวันที่ 24 มกราคม 2567 เวลา 09.30 น. โดยศาลให้ โจทก์นำส่งหมายนัดไต่สวนมูลฟ้องพร้อมแนบสำเนาคำฟ้องและเอกสารแจ้งสิทธิจำเลยตามกฎหมายในการ ต่อสู้คดีในชั้นไต่สวนมูลฟ้องให้จำเลยทราบภายใน 5 วัน นับแต่วันนี้ ถ้าส่งไม่ได้ให้โจทก์แถลงต่อศาลภายใน 7 วัน นับแต่วันส่งไม่ได้ นอกจากนี้ศาลยังเห็นควรไต่สวนมูลฟ้องคดีนี้เฉพาะนายภูมิศิษฐ์ โจทก์ พลอากาศโท ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ คณะกรรมการ กสทช. และ พล.ต.ท เกียรติพงศ์ ขาวสำอางค์ ประธานตรวจสอบข้อเท็จจริงในประเด็น และพยานหลักฐานตามที่ศาลเห็นสมควรเท่านั้น โดยให้ฝ่ายโจทก์นำพยานเข้าเบิกความตามกำหนดวันนัด ไต่สวนมูลฟ้อง ทั้งนี้นายภูมิศิษฐ์ยื่นฟ้อ งนพ.สรณ หลังจากที่บอร์ด กสทช.เสียงข้างมากมีมติเห็นชอบให้นายภูมิศิษฐ์ดำรง ตำแหน่งเป็นผู้รักษาการแทนเลขาธิการกสทช. ปรากฏว่า นพ.สรณ ไม่ได้ลงนามแต่งตั้ง ในเวลาต่อมา เลขานุการประจำของนพ.สรณ ระบุประธานบอร์ดกสทช.ยังไม่ได้ยกเลิกหรือเพิกถอนนายไตรรัตน์ จากการเป็นรักษาการเลขาธิการ กสทช. และนพ.สรณยังไม่มีคำสั่งแต่งตั้งนายภูมิศิษฐ์ให้รักษาการ แทนเลขาธิการฯ แทนนายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล แต่อย่างใด และประกาศว่านายไตรรัตน์ ยังคงต้องปฏิบัติ หน้าที่ รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช. และมีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับเลขาธิการ กสทช. ทุกประการ ในคำบรรยายฟ้องของนายภูมิศิษฐ์ ระบุว่าพฤติการณ์ของจําเลยในฐานะเจ้าพนักงานจงใจละเว้นการปฏิบัติ หน้าที่โดยมิชอบตามมาตรา 6 ของระเบียบ กสทช. ว่าด้วยการรักษาการแทน การปฏิบัติการแทน และการ ปฏิบัติงาน เฉพาะอย่างแทนในตำแหน่งเลขาธิการ กสทช. และพนักงานของ กสทช. พ.ศ. 2555 โดยก่อนหน้านี้ กรรมการ กสทช. 4 ราย ได้แก่ พล.อ.ท.ดร.ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ, รศ.ดร.พิรงรอง รามสูต, รศ.ดร.ศุภัช ศุภชลาศัย และ รศ.ดร.สมภพ ภูริวิกรัยพงศ์ ยื่นฟ้อง นพ.สรณ ต่อศาลปกครองกลางในคดี พิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้อง ปฏิบัติคดีนี้ พล.อ.ท.ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ กับพวกรวม 4 คน ฟ้องว่า ประธาน กสทช. กระทำการไม่ชอบด้วยกฎหมาย ละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ กรณีไม่ลงนามในคำสั่งแต่งตั้ง นายภูมิศิษฐ์ เป็นผู้รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช. ตามมติ กสทช. ผู้ฟ้องคดีเห็นว่า ประธาน กสทช. ละเลยต่อหน้าที่ตามกฎหมาย ทำให้ผู้ฟ้องคดีได้รับความเดือดร้อนเสียหาย.