มณีรัตน์ งามเรืองพงศ์

ปิดสมุดบัญชีของ บมจ.ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก หรือ OR “เซียนฮง” หรือ สถาพร งามเรืองพงศ์ นักลงทุนพอร์ตหมื่นล้านบาท ที่เคยถือหุ้น OR จำนวน 244,298,900 หุ้น คิดเป็น 2.04% เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 รองจาก บมจ.ปตท.(PTT) ล่าสุด (9 ก.ย. 2564) จำนวนหุ้นที่เซียนฮงถือ ลงมาเหลือเพียง 118,688,600 หุ้น คิดเป็น 0.99% และลงมาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 5 เท่ากับว่าเซียนฮงขายหุ้นออกไป 125,698,900 ล้านหุ้น นอกจากเซียนฮงแล้ว “มณีรัตน์ งามเรืองพงศ์” ที่เคยเข้ามาถือหุ้น OR จำนวน 29,000,000 หุ้น คิดเป็น 0.24% ล่าสุด ไม่ปรากฏชื่อเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ OR แล้ว สำหรับเซียนฮง เริ่มมีข่าวเข้ามาถือหุ้น OR ในช่วงต้นเดือนมีนาคม 2564 หลัง OR เข้าซื้อขายใน SET ไม่ถึง 1 เดือน ไม่มีใครทราบว่า “ต้นทุน” ทีเซียนฮงได้หุ้น OR มานั้น ราคาเท่าไหร่ แต่อย่างที่เคยเขียนบอกไปก่อนหน้านี้ มีการคาดกันว่า น่าจะอยู่ระหว่าง 28.00-29.00 บาท ดังนั้น หากเซียนฮง และ มณีรัตน์ ขายหุ้นออกไป ก็น่าจะสูงกว่าราคาที่มีการคาดกันไว้ ย้อนกลับไปดูราคาหุ้น OR นับจากที่มีข่าวว่ากลุ่ม งามเรืองพงศ์ เข้ามาถือหุ้น ราคาหุ้นเคยขึ้นไปสูงสุด 33.50 บาท หรือช่วงปลายเดือนมีนาคม 2564 แต่เข้าใจว่า ในช่วงนี้เขายังไม่น่าจะขายออกมา มีอีกช่วงที่ราคาหุ้น OR ขยับขึ้นมายืนเหนือ 30.00 บาท คือ เดือนมิถุนายน 2564 ราคาขึ้นมาสูงสุด 32.00 บาท (1 มิ.ย. 2564) หรืออาจเป็นช่วงนี้ก็ได้ การขายหุ้นของเซียนฮง ถือว่ามีนัยสำคัญ และน่าจะเกิดหลายคำถามตามมาแน่นอน เพราะการที่นักลงทุนรายใหญ่ “ปรับพอร์ต” ไม่ใช่เรื่องธรรมดา หากจะมีการวิเคราะห์ว่า เซียนฮง ขายหุ้น OR ออกมา เพราะมองว่าในระยะสั้นถึงปานกลาง OR อาจจะยังมีผลประกอบการไม่โดดเด่นมากนักหรือเปล่า หรือ เซียนฮง อาจจะมองว่า ตนเองเข้ามาซื้อหุ้น OR มากเกินไปหรือไม่ หากคำนวณจากจำนวนหุ้น 244.2 ล้านหุ้น และสมมุติต้นทุนที่ 29.00 บาท เซียนหุ้นถือหุ้น OR มีมูลค่ารวมถึง 7 พันล้านบาท ผ่านมาถึงวันนี้ เลยอาจจะขอปรับพอร์ต ดึงเงินออกมาส่วนหนึ่งเพื่อไปลงทุนหุ้นตัวใหม่ที่น่าจะให้ผลตอบแทนดีกว่า OR เพราะหากจะบอกว่า เซียนฮง “ทิ้งหุ้น OR” ก็ไม่น่าจะถูกต้องนัก เพราะเขายังเหลือถืออยู่กว่า 118.6 ล้านหุ้น หากคิดเป็นมูลค่าเงิน ณ ราคาปิดวานนี้ที่ระดับ 29.00 บาท เท่ากับว่า เซียนฮง ยังมีมูลค่าเงินลงทุนใน OR อยู่อีกกว่า 3.5 พันล้านบาท และถือว่าเป็นมูลค่าลงทุนที่ยังอยู่ระดับสูง (มาก) ยังมีประเด็นน่าสนใจเพิ่มเติม คือ เซียนฮง ขายหุ้นให้กับใคร เพราะที่ผ่านมาไม่มีข่าวบิ๊กล็อตของ OR ออกมาแบบผิดสังเกต หรือเขาอาจไม่ได้ขายแบบบิ๊กล็อต? แต่อาจใช้วิธีการขายแบบ ค่อย ๆ หยอด (ขาย) แต่ไม่ว่าจะขายด้วยวิธีการใด ถือเป็นการ “ขายนิ่มมาก” ราคาหุ้น OR แทบจะไม่มี Effect จากการขายของเซียนฮงเลย มาที่กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ของ OR รายอื่น ๆ เท่าที่ดูข้อมูลพบว่า บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด มีจำนวนหุ้นเพิ่มขึ้นเป็น 249,454,178 หุ้น คิดเป็น 2.08% จากเดิมที่เคยถืออยู่ 179,168,560 หุ้น คิดเป็น 1.49% กรณีไทยเอ็นวีดีอาร์ สอดคล้องกับข้อมูลที่ออกมาก่อนหน้านี้ว่า ฟันด์โฟลว์เข้าซื้อหุ้น OR เพิ่มขึ้น กระทรวงการคลัง และสำนักงานประกันสังคม ยังมีสัดส่วนเท่าเดิม ส่วนกองทุนต่าง ๆ ของ บลจ.บัวหลวง มีสัดส่วนหุ้นเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย รวมถึง GIC PRIVATE LIMITED ที่มีจำนวนหุ้นลดลงเหลือ 123,824,000 หุ้น คิดเป็น 1.03% จากเดิม 1.79% สรุป แม้ฟังดูแล้วอาจจะตกใจบ้างที่เซียนฮง ขายหุ้น OR ออกมา แต่อีกด้านหนึ่ง เขาก็ยังเหลือถือหุ้น OR อยู่ค่อนข้างมากนะ