มดเล็ก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่พรรคเพื่อไทย ได้เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค โดยมี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมแกนนำพรรค ร่วมเปิดตัวผู้ซึ่งประสงค์จะสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.พรรคเพื่อไทย ภาคเหนือตอนล่าง และภาคกลาง รวม 57 คน โดย นพ.ชลน่าน ระบุว่า พรรคเพื่อไทยมีความภาคภูมิใจที่จะประกาศเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ซึ่งประสงค์จะสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.พรรคเพื่อไทย ภาคกลางและภาคเหนือตอนล่างบางส่วน เพื่อไปสู่เป้าหมาย "เพื่อไทยแลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน" ซึ่งเป็นเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ให้พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงนี้ให้ได้ ภายใต้ 3 เสาหลัก ได้แก่ 1.ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ซึ่งเป็นผู้มีความรู้ ความสามารถ เป็นที่ยอมรับของประชาชน เข้าถึงพื้นที่ เข้าถึงประชาชนในการเข้ารับทราบปัญหา ดูแลประชาชน และนำปัญหาสะท้อนกลับมายังพรรคมาเป็นแนวนโยบายที่จะเข้าถึงประชาชนได้ 2.นโยบายของพรรคเพื่อไทย คือ ประชาธิปไตยกินได้ ซึ่งเป็นจุดแข็งของพรรคมาโดยตลอด 3.แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้ที่จะนำเอานโยบายไปปฏิบัติเพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชน ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทย จะทยอยเปิดตัวผู้ซึ่งประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ของพรรคอย่างต่อเนื่องจนครบเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้ว่า จะเปิดให้ครบ 400 เขต ภายในเดือนธันวาคม 2565 โดยวันนี้พรรคเพื่อไทย ขอเปิดตัวผู้ซึ่งประสงค์จะสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. พรรคเพื่อไทย ภาคเหนือตอนล่าง 5 จังหวัด จำนวน 25 คน และภาคกลาง 12 จังหวัด จำนวน 32 คน รวมจำนวน 57 คน หนึ่งในนั้นคือจังหวัดฉะเชิงเทราที่สร้างความฮือฮา นอกเหนือจาก นางฐิติมา ฉายแสง และนายวุฒิพงศ์ ฉายแสง รอบนี้ในคนจากครอบครัวตันเจริญมาลงสมัครในนามพรรคเพื่อไทย นั้นคือ นายศักดิ์ชาย ตันเจริญ หรือ มดเล็ก บุตรชายนายสุชาติ ตันเจริญ ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคพลังประชารัฐ ที่ปรากฏตัวพร้อม นายคชาภา ตันเจริญ หรือ มดดำ ที่เดินทางมาให้กำลังใจน้องชาย ทำให้เป็นไปได้สูงแล้วว่า นายสุชาติ จะหวนกลับมาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย เพราะเคยเป็น ส.ส.สมัยพรรคไทยรักไทย ใกล้ชิดสนิทสนมมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ นายคชาภา เปิดเผยว่า เนื่องจากที่ทำงานของตนอยู่ใกล้ๆ จึงเดินมาส่งน้องชายที่พรรคเพื่อไทย สำหรับอนาคตจะเล่นการเมืองหรือไม่นั้น ตอนนี้ยังมีความสุขกับการทำงานที่ทำ ส่วนนายศักดิ์ชายจะได้รับโอกาสในพื้นที่แปดริ้วหรือไม่ขึ้นอยู่กับประชาชน เมื่อถามว่าจะช่วยลงพื้นที่หาเสียงด้วยหรือไม่ นายคชาภาบอกว่า ตนไม่ทราบว่าตามกฎทำได้หรือไม่ แต่หากลงพื้นที่คงไปในฐานะพี่ชาย ขณะที่นายศักดิ์ชาย ระบุว่า ตนเป็น ส.จ.มา 3 สมัยแล้วได้เรียนรู้อะไรด้วยตัวเอง จึงเสนอตัวมาทำงานการเมืองในระดับชาติ ส่วนในอนาคตนายสุชาติบิดาจะย้ายกลับมาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่นั้นต้องรอความชัดเจนอีกครั้ง