มาตรา 112 ร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีวันนี้ (31 ม.ค.67) ภายหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยกรณี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ในขณะนั้น) และพรรคก้าวไกล เสนอแก้ไขมาตรา 112 พร้อมทั้งรณรงค์และนำไปหาเสียงเลือกตั้ง สส.เข้าข่ายล้มล้างการปกครองระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข พร้อมสั่งให้ยุติการกระทำทุกอย่างเกี่ยวกับการแก้ไขมาตรา 112 รวมทั้งเตือนทุกฝ่ายอย่าละเมิดอำนาจศาล ล่าสุดมีรายงานว่านักลงทุนมีความกังวลต่อประเด็นดังกล่าวจนมีแรงเทขายออกมาเพื่อลดความเสี่ยง ภาวะตลาดหุ้นไทย(SET Index) ณ เวลา 15:50 น. อยู่ที่ระดับ 1,363.37 จุด ลบ 9.77 จุด หรือลดลง 0.71% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 37,623.77 ล้านบาท โดยบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์จากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ออกมานี้ ตามขั้นตอนถัดไป กกต.สามารถยื่นศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อสั่งยุบพรรคการเมืองและเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองนั้นได้(ตามพ.ร.ป พรรคการเมืองมาตรา 92) ขณะเดียวกันทางฝั่ง สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)) ก็สามารถพิจารณาว่าผิดต่อหลักจริยธรรมร้ายแรงหรือไม่(ตามรัฐธรรมนูญมาตรา219 วรรค 2, มาตรา 235)ซึ่งหากศาลวินิจฉัยแล้วว่าผิดจริง โทษสูงสุด คือการตัดสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิต ทั้งนี้ปัจจัยดังกล่าวกดดันตลาดมาตลอด 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมองว่าถ้าศาลวินิจฉัย “ก้าวไกล” ล้มการปกครองอาจเกิด Overhang กับตลาดด้วยความกังวลการเมืองที่ร้อนแรง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในอนาคตได้ ดังนั้นนักลงทุนรอดูปัจจัยสำคัญๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นกลยุทธ์การลงทุนแนะนำถือเงินสดบางส่วน10-20% ของพอร์ต ส่วนหุ้นเด่นเอนเอียงน้ำหนักไปกับหุ้น 3 ธีม ที่น่าจะ Outperform ตลาดได้ในช่วงนี้ 1.หุ้นปันผลสูง AP, INTUCH, MAJOR, PTTEP ,2.หุ้นคาดหวังดอกเบี้ยขยับลง TIDLOR, SAWAD, TISCO และ 3.หุ้นอิงการท่องเที่ยว AOT, MINT