มูลค่างานในมือ

บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ว่า กลุ่มรับเหมาก่อสร้างคาดกำไรสุทธิปี 2566 แข็งแกร่ง โดยคาดว่า CK และ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ STEC จะเริ่มรับรู้รายได้จากโครงการใหม่ตั้งแต่ไตรมาส 1/66 เป็นต้นไป คาดการณ์กำไรสุทธิรวมสองบริษัทเติบโตแข็งแกร่ง 32% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ในปี 66 เป็น 2.6 พันล้านบาท โดยปัจจัยหนุน คือ 1.GPM เพิ่มขึ้นเพราะรับรู้รายได้โครงการที่มีมาร์จิ้นสูงมากขึ้น, 2) มูลค่างานในมือ (Backlog) เพิ่มขึ้น ยังผลให้คาดว่าการรับรู้รายได้จะสูงขึ้น 21% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน มีโครงการเปิดประมูลกว่า 1.5 แสนล้านบาท ในปี 2566-2567 ได้แก่ 1.) โครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงส่วนต่อขยาย มูลค่า 2.25 หมื่นล้านบาท, 2.) โครงการรถไฟรางคู่ มูลค่ารวม 1.28 แสนล้านบาท และ 3) โครงการทางด่วน กระทู้-ป่าตอง 1.4 หมื่นล้านบาท ส่วนดัชนีราคาวัสดุกอ่ สร้างผ่านจดุ สูงสุดมาแล้ว ทั้งนี้ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างในปี 2565 เพิ่มขึ้น 5.8%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน (ปี 64 เพิ่ม 8.1% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน) นำโดยราคาเหล็กเชื่อว่าในปี 2566 การปรับขึ้นราคาวัสดุก่อสร้างจะน้อยลง และบริษัทรับเหมาก่อสร้างจะบริหารต้นทุนได้ง่ายขึ้น อัตรากำไรขั้นต้นมีแนวโน้มดีขึ้น ขณะเดียวกันก็สามารถส่งผ่านต้นทุนที่สูงขึ้นไปยังเจ้าของโครงการที่เป็นภาครัฐได้ (K factor adjustment) ทั้งนี้ให้ บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK เป็นหุ้น Top Pick ในกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง เนื่องจากมีประสบการณ์สูง มีโอกาสได้งานใหญ่เข้ามาเพิ่มและมีเงินลงทุนที่ดีในบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM, บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKP ทางฝ่ายวิจัยฯ DBS คาดการณ์กำไรสุทธิปี 2566-2567 เติบโตแข็งแกร่ง จากมาร์จิ้นที่ดีขึ้นและมีงานใหม่เข้ามาเพิ่ม ทำให้รายได้มีความมั่นคง