ยกเลิกเอกสารวัคซีนก่อนเข้าไทย

บล.ดาโอ ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(10 ม.ค.66) ว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ปรับแก้ข้อกำหนดในการเข้าไทยอีกรอบ โดยอนุมัติผู้โดยสารไม่ต้องแสดงข้อมูลการรับวัคซีนครบ 2 เข็ม ตั้งแต่ 9 ม.ค.66 โดยอ้างนักท่องเที่ยวโซนยุโรปไม่เห็นด้วยกับมาตรการดังกล่าว แต่ยังคงกำหนดให้มีประกันสุขภาพครอบคลุมการรักษาโควิด19 สำหรับผู้เดินทางจากประเทศที่กำหนดว่าเมื่อจะกลับเข้าประเทศนั้นๆต้องแสดงผลตรวจโควิดด้วยวิธี RT-PCR เพื่อที่หากตรวจพบเชื้อแล้วต้องรักษาในประเทศไทย จะได้รองรับค่าใช้จ่าย โดยประเด็นดังกล่าวมีมุมมองเป็นบวกต่อการยกเลิกแสดงข้อมูลการรับวัคซีน 2 เข็มเร็วขึ้น จากสัปดาห์ที่ผ่านมา สธ.ประกาศให้ผู้เดินทางเข้าไทยให้แสดงข้อมูลการตรวจโควิด ส่งผลให้การเดินทางเข้ามาในประเทศไทยทำได้สะดวกมากขึ้นโดยเฉพาะจีนที่ยังเติบโตได้ดีตามเดิม ส่วนการทำประกันสุขภาพยังเป็นตามเดิม ซึ่งจะคิดเป็นค่าใช้จ่ายไม่มากราว 400 บาท โดยค่าใช้จ่ายนี้จะเป็นค่าใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยราว 1% (เทียบกับค่าใช้จ่ายต่อหัวของนักท่องเที่ยวจีนปี 62 ที่ 4.8 หมื่นบาท) ส่งผลให้เราจะมีการปรับจำนวนนักท่องเที่ยวปี 66 ขึ้นเป็น 25 ล้านคน โต 112% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน จากเดิม 22 ล้านคน โต 86% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งจะมี upside เพิ่มจากตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนในปี 66 ที่จะเพิ่มขึ้นเป็น 5 ล้านคน จากเดิมที่คาดไว้ที่ 2 ล้านคน โดยหุ้น Top picks ที่ได้ประโยชน์จากการยกเลิกแสดงเอกสารฉีดวัคซีนก่อนเข้าไทย และยังมีโอกาส outperform มากสุด ได้แก่ AAV, ERW, BAFS (ซื้อ/เป้า 35.00 บาท) AAV แนะนำซื้อราคาเป้าหมาย 3.70 บาท ได้ผลบวกจากผู้โดยสารจีนที่จะเติบโตมากสุดและมีโอกาสที่จีนจะเพิ่มโควต้าเที่ยวบินเพิ่มในอนาคต (ปัจจุบัน AAV มี 2เที่ยวบิน/สัปดาห์) โดยสถานการณ์ปกติสัดส่วนรายได้จากนักท่องเที่ยว 25% ขณะที่จะได้ catalyst จากผลการดำเนินงานไตรมาส 4/65 ที่จะพลิกกลับมามีกำไรโดดเด่นราว 2.2 พันล้านบาท และจะเป็นก าไรครั้งแรกในรอบ 15 ไตรมาส จากจำนวนผู้โดยสารที่เติบโต และจะมีก าไรพิเศษหลักจาก FX gain จากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ERW แนะนำซื้อราคาเป้าหมาย 5.20 บาท จะได้รับผลประโยชน์สูงที่สุดเพราะมีสัดส่วนโรงแรมในประเทศไทยสูงที่สุดในกลุ่มที่ 88% และมีสัดส่วนนักท่องเที่ยวจีนสูงที่สุดในกลุ่มราว 15% BAFS แนะนำซื้อราคาเป้าหมาย 35.00 บาท ได้อานิสงส์จากจำนวนเที่ยวบินและปริมาณเติมน้ำมันอากาศยานที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะแนวโน้มเที่ยวบินจีนเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งจะหนุนปริมาณเติมน้ำมันอากาศยาน โดยบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากเที่ยวบินจีนราว 10-15%