ยอดตายพุ่ง

นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค เปิดเผยการคาดการณ์ของกระทรวงสาธารณสุขในกรณีที่คงมาตรการต่างๆ เอาไว้ และประชาชนให้ความร่วมมือในระดับปัจจุบัน ว่า ในวันที่ 19 เมษายน ผู้ติดเชื้อจะเพิ่มขึ้นสูงสุดราว 50,000 รายต่อวัน และช่วง 5-6 พฤษภาคม จะมีผู้ป่วยปอดอักเสบเพิ่มขึ้นราว 3,000 ราย และมีผู้ป่วยปอดอักเสบใส่ท่อช่วยหายใจจำนวนสูงสุดประมาณ 900 ราย พร้อมคาดว่า ในช่วงต้นเดือนพฤษภาคมจะมีผู้เสียชีวิตเกือบ 150 รายต่อวัน สำหรับกรณีที่ผ่อนคลายมาตรการป้องกันโรค ลดการกักตัว รวมถึงประชาชนไม่ให้ความร่วมมือ และฉีดวัคซีนทุกเข็มต่ำกว่า 200,000 โดสต่อวัน การคาดการณ์ในช่วงต้นเดือนพฤษภาคมผู้ป่วยปอดอักเสบจะเพิ่มสูงสุดราว 6,000 ราย วันที่ 5-6 พฤษภาคม ผู้ป่วยปอดอักเสบที่ต้องใส่ท่อช่วยหายใจประมาณ 1,700 ราย และมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 250 รายต่อวัน ทั้งนี้ปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้หลังสงกรานต์สถานการณ์แย่ลงนั้น มาจากการรวมกลุ่มกันมากขึ้น กลับบ้านมากขึ้น ไปเจอผู้หลักผู้ใหญ่ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนกันจำนวนมากขึ้นในช่วงสงกรานต์ เพราะฉะนั้นการจะทำให้สถานการณ์การระบาดไม่เกินศักยภาพระบบสาธารณสุข ทุกคนต้องร่วมมือกันป้องกันตนเองและคนในครอบครัวให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่ว่าจะเป็นมาตรการป้องกันตัวเองทุกที่ทุกเวลาเป็นหลัก โดยโฟกัส 3 จุดสำคัญ คือ 1.ไม่รวมกลุ่มทานข้าวด้วยกันเป็นเวลานาน ถ้าทานข้าวร่วมกันต้องแบบใช้เวลาสั้น ๆ 2.ใส่หน้ากากอนามัยถ้าอยู่กับผู้ที่มีความเสี่ยงสูงคือกลุ่ม 608 หรือเด็กเล็ก ป้องกันไม่ให้ป่วยและไปรับวัคซีน และ 3.งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ งดปาร์ตี้ ซึ่งจะช่วยป้องกันเรื่องของการเกิดอุบัติเหตุไปพร้อมกันด้วย ด้าน นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า ได้หารือร่วมกับสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข และภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน เอกชน กรุงเทพมหานคร และโรงเรียนแพทย์ เพื่อทำมาตรการขยายจำนวนเตียง หากอัตราการครองเตียงสูงถึง 80% เพื่อรองรับผู้ป่วยหลังสงกรานต์