รองเท้าช้างดาว

การก้าวย่างสู่ทศวรรษที่ 7 ของ “เสื้อยืดห่านคู่” และ “รองเท้าช้างดาว” ด้วยโปรเจกต์ฉลองครบรอบ 69 ปีทั้งคู่ออก Legendary Edition (แพ็กเกจพิเศษร่วม) เพื่อตอกย้ำ ความเป็น “แฟชั่นเหนือกาลเวลา” มีเป้าหมายคือการ Close the Gap (ปิดช่องว่าง) เพื่อสื่อสารให้คนรุ่นใหม่เห็นว่าแบรนด์เก่าแก่มีดี ภายใต้คอนเซ็ปต์ “เก่า+เก่า ใหม่” หรือ “เก๋า+เก๋า เท่” เติมเต็มความยั่งยืนให้ทั้ง 2 แบรนด์ หลังมีการคุยกันมานานถึง 3 ปี โดยทั้ง 2 แบรนด์ร่วมกันทำสินค้ารุ่นพิเศษ ด้วยการนำสัญลักษณ์ทั้ง 2 ฝั่ง มาจัดวางในสินค้าของตัวเอง ได้แก่ รองเท้าแตะช้างดาว รุ่นห่านคู่ และเสื้อยืดห่านคู่ รุ่นช้างดาว ที่ผลิตเพียง 10,000 ชุดเท่านั้นช่วงเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา สินค้ารุ่นพิเศษที่ว่านี้ ผลิตและจำหน่ายเป็นชุด ประกอบด้วย เสื้อยืด รองเท้าแตะและกระเป๋าย่าม จำหน่ายชุดละ 990 บาท สั่งซื้อผ่านบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด นั่นทำให้สองแบรนด์คลาสสิคทั้ง “ห่านคู่” และ “ช้างดาว” กลับมาสู่โหมดที่น่าสนใจในตลาดยุคใหม่อีกครั้ง.!! ช่วงค่ำคืนวันศุกร์ที่ 6 พ.ค.ที่ผ่านมา “ห่านคู่” ได้ปลุกกระแส “คนธรรมดา” จนกลายเป็นไวรัลวงการคอนเทนต์การตลาดออนไลน์ แพร่หลายเพียงชั่วข้ามคืนด้วย โดยส่งจดหมายถึง “คุณ...คนธรรมดา” ผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย ด้วยเนื้อหาเรียบง่าย ที่ยืนยันความเป็นแบรนด์สินค้าธรรมดา ๆ ที่อยู่คู่กับคนไทยมายาวนาน จากนั้นแบรนด์รุ่นเดียวกันอย่าง “นันยาง (ช้างดาว)” ก็มาตอบจดหมาย “ถึงห่านคู่..เสื้อยืดธรรมดา” ที่ตอกย้ำด้วยเนื้อความเป็นแบรนด์สินค้าของ “คนธรรมดา” เช่นเดียวกัน จนทำให้แบรนด์ดัง ๆ ต่างพากันออกมาร่วมเกาะกระแสตอบกลับจดหมายภายใต้คอนเซ็ปต์ “คนธรรมดา” อย่างคับคั่งบนโซเชียลมีเดียต่าง ๆ สำหรับ “ห่านคู่” ถือกำเนิดขึ้นเมื่อปี 2496 โดย “เจือ ธนสารสมบัติ” และคณะ ภายใต้บริษัท โรงงานไทยแลนด์นิตติ้ง จำกัด สินค้าหลักคือ “เสื้อยืดห่านคู่” ลูกค้าหลักจัดอยู่ในกลุ่ม GenY (อายุ 28-42), GenX (อายุ 43-58) และ Boomer (อายุ 60 ปีขึ้นไป) เช่นเดียวกับ “ช้างดาว” ถือกำเนิดขึ้นเมื่อปี 2496 โดย “วิชัย ซอโสตถิกุล” ภายใต้บริษัท นันยางอุตสาหกรรม จำกัด สินค้าหลักคือ “รองเท้าแตะช้างดาว” ลูกค้าหลักจัดอยู่ในกลุ่ม GenY (อายุ 28-42), GenX (อายุ 43-58) และ Boomer (อายุ 60 ปีขึ้นไป) ทั้ง 2 แบรนด์ มีเป้าหมายสำคัญ นั่นคือการเติบโตอย่างยั่งยืนและมั่นคงมุ่งสู่แบรนด์ 100 ปี ในเชิงการตลาดการตอกย้ำคำว่า “คนธรรมดา” ที่ถือว่าที่เป็นคนส่วนใหญ่ของสังคม จึงทำให้เป็นเรื่องที่ไม่ธรรมดาด้วย Real-time Content (คอนเทนต์ปัจจุบันทันด่วน) จากแบรนด์ดังต่าง ๆ ทั้ง ยาหม่องถ้วยทอง, สเวนเซ่นส์, KFC, ท็อปส์, ไปรษณีย์ไทย, บาร์บีคิวพลาซ่า, เซ็นทรัล, โลตัส, ฟาร์มเฮาส์, ชายสี่หมี่เกี๊ยว ฯลฯ จนถึงหน่วยงานภาครัฐ อย่างองค์การอาหารและยา (อย.) ที่ไม่ยอมตกเทรนด์เช่นกัน ปรากฏการณ์การตลาด “คนธรรมดา” ของ “ห่านคู่-ช้างดาว” ครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงคนคิดและทำที่ “ไม่ธรรมดา” และเป็นคำตอบสุดท้ายของ “แบรนด์ที่ไม่มีวันตาย” นั่นเอง..!!