ระพี อุทกะพันธุ์

เป็นที่รู้กันว่า “ช่องอมรินทร์ทีวี 34” เป็นของ “เจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี” ที่ลงทุนผ่านบริษัท วัฒนภักดี จำกัด และยิ่งชัดมากขึ้น เมื่อ “ระริน อุทกะพันธุ์ ปัญจรุ่งโรจน์” ทายาทผู้ก่อตั้งอมรินทร์ ขายบิ๊กล็อตหุ้นบริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือ AMARIN ที่ถือในสัดส่วน 13.86% ให้กับบริษัท สิริภักดีธรรม จำกัด ตามมาด้วย “ระพี อุทกะพันธุ์” กับ “เมตตา อุทกะพันธุ์” ก็ขายหุ้นที่ถือรวมกัน 7.0956% ให้กับบริษัท สิริวัฒนภักดี จำกัด ใน “กลุ่มเจ้าสัวเจริญ” เช่นกัน... เป็นการปิดฉาก “อุทกะพันธุ์” ในอมรินทร์อย่างถาวร..!! ในขณะเดียวกัน ส่งผลให้ “กลุ่มเจ้าสัวเจริญ” ถือหุ้นใน AMARIN เพิ่มเป็น 82.1145% ซึ่งเกินกว่า 75% ก็เข้าเงื่อนไขให้บริษัท สิริวัฒนภักดี จำกัด ต้องประกาศตั้งโต๊ะเทนเดอร์ฯ หุ้นที่เหลือจำนวน 178.54 ล้านหุ้น คิดเป็น 17.8855% ที่ราคาหุ้นละ 5 บาท รวมมูลค่า 892.73 ล้านบาท วานนี้จึงเห็น AMARIN ตอบรับข่าวดังกล่าวด้วยอาการลิงโลด ระหว่างวันขึ้นไปแตะที่ระดับสูงสูง 5.40 บาท ก่อนจะย่อลงมาปิดตลาดที่ 4.94 บาท ปรับเพิ่มขึ้น 12.79% แต่ถ้าย้อนไปอีกนิด ช่วงปลายเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา “เจ้าสัวปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ” ก็เพิ่งตัดสินใจเลือกช่อง PPTV36 อย่างเดียว ตัดช่อง ONE 31 ออกไป หลังจากไฟเขียวให้ “หมอปุย” ปรมาภรณ์ ปราสาททองโอสถ” ได้ขายหุ้นบริษัท เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ONEE ที่ถือ 25.0498% ให้กับไฮโซหนุ่ม “แอมป์” พิธาน องค์โฆษิต ไป แหม๊...อุตส่าห์เก็บเธอไว้ทั้ง 2 ช่องมานานหลายปี...วันดีคืนดีก็ขายทิ้งแบบไม่เหลือเยื่อใยซะงั้น ด้านอีกหนึ่งเจ้าสัวใหญ่ อย่าง “เจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์” ก็ไม่น้อยหน้า มีทีวีดิจิทัลในมือถึง 2 ช่องด้วยกัน นั่นคือ TNN ช่อง 16 และ True4U ช่อง 24 ถ้าให้วิเคราะห์ 4 ช่องทีวิดิจิทัลของ 3 เจ้าสัวใหญ่ มีความน่าสนใจที่แตกต่างกัน...อย่างช่องอมรินทร์ทีวี 34 เกิดและโตมาจากธุรกิจโรงพิมพ์ สำนักพิมพ์ สื่อสิ่งพิมพ์นิตยสารชื่อดัง “บ้านและสวน” และอีกหลายฉบับ ก่อนจะมาชิมลางธุรกิจทีวิดิจิทัลในปี 2556...ทำให้ยุคแรก ๆ ของช่องอมรินทร์ทีวี 34 เน้นหนักไปที่รายการตกแต่งบ้าน ตกแต่งสวน และไลฟ์สไตล์ต่าง ๆ ต่อมามีการปรับผังรายการใหม่ให้เป็นช่องข่าวที่มีความแหลมคมมากขึ้น และไต่เต้าขึ้นมาเป็นช่องรายการข่าวค่ำแถวหน้าทีวิดิจิทัล... ฟากช่อง PPTV36 ของ “เจ้าสัวปราเสริฐ” ถ้าดูจากสโลแกนที่ว่า “ครบทุกข่าวเข้าใจคนกีฬา” ก็ชัดเจนว่าเป็นช่องกีฬาควบคู่ข่าวสาร โดยมีการถ่ายทอดสดเกมกีฬาดังระดับโลกมากมาย อาทิ ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก, ฟุตบอลบุนเดสลีกา, การแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก (MotoGP), การแข่งขันกอล์ฟระดับโลก Honda LPGA Thailand 2024, การแข่งขันเทนนิส ยูเอสโอเพ่น เป็นต้น และมีข่าวการเมือง ข่าวเศรษฐกิจบ้าง ก็แข็งแรงพอสมควร ส่วน TNN ช่อง 16 ของ “เจ้าสัวธนินท์” จะเน้นข่าวสาร ในขณะที่ True4U ช่อง 24 จะเน้นความบันเทิง...ที่ผ่านมาจะเห็นถึงความชาญฉลาดของกลุ่มซีพีในการใช้สื่อทีวีดิจิทัลเป็นกระบอกเสียงได้อย่างน่าสนใจ โดยเฉพาะข่าวสารที่เกี่ยวกับโครงการรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีด) เชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา) หนึ่งในเมกะโปรเจกต์ขายฝันของรัฐบาลชุดเก่า ส่วนจะชาญฉลาดยังไงนั้น..?? ลองไปหาดูคลิปเก่า ๆ ละกัน ไม่อยากพูดเยอะ...เจ็บคอ..!! นี่ไม่นับรวมบรรดาเสี่ย ๆ ที่กำลังขึ้นมาเป็นเจ้าสัวนะ ไม่ว่าจะเป็น “เฮียฮ้อ” สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ เจ้าของทีวีช่อง 8, “อากู๋” ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม เจ้าของทีวีช่อง GMM25 และช่อง ONE 31 นอกจากนี้ยังมี “เสี่ยตา” ปัญญา นิรันดร์กุล เจ้าของ Workpoint TV ช่อง 23 และ “เสี่ยพิชญ์ โพธารามิก” เจ้าของทีวีช่อง Mono29 เมื่อเจ้าสัวใหญ่เป็นเจ้าของสื่อเอง สื่อค่ายอื่น ๆ ก็คงอยู่ยาก เพราะเม็ดเงินโฆษณาที่ใช้โปรโมตสินค้าและบริการของบริษัทในเครือ จากเดิมเคยกระจายไปตามช่องสื่อต่าง ๆ อย่างทั่วถึง ก็คงกระจุกอยู่แค่สื่อของตัวเองเท่านั้น ไม่ต่างจากอัฐยายซื้อขนมยายนั่นแหละ... ดูจากสถานการณ์แล้ว สื่ออื่นคงเหนื่อยขึ้น ส่วนจะเหนื่อยน้อยหรือเหนื่อยมาก ก็ว่ากันไป... ...อิ อิ อิ...