รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ ( 2 ก.ค.67 ) ที่หอประชุมราชภัฏรังสฤษฎ์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่อย่างเป็นทางการ (ครม.สัญจร) มีกลุ่มประชาชนในหลายอำเภอที่ได้รับผลกระทบจากการทำเหมืองแร่โปแตช ซึ่งที่อ.โนนไทย อ.โนนสูง และอ.เมือง กำลังทำสำรวจแร่อยู่และขอสัมปทานบัตรเหมืองแร่ ซึ่งเหตุผลที่ต้องมาวันนี้ เพราะ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้นโยบายไว้สำหรับการขึ้นมาเป็นผู้นำรัฐบาล ที่ต้องการผลักดันเมืองแร่โปแตช ซึ่ง อ.ด่านขุนทด ก็เป็นหนึ่งในการที่ขอให้มีเร่งรัดทำ ทั้งนี้ตอนที่อนุมัติได้อ้างว่าเพื่อชดเชยการนำเข้า 8 แสนตัน แต่ปรากฏว่ากลับให้มีการอนุมัติให้มีการดำเนินการแล้วกว่า 3 ล้านตัน ดังนั้น จึงต้องการที่จะยื่นหนังสือถึงนายเศรษฐา และ หากวันนี้ ( 2 ก.ค.67 ) ไม่ออกมารับหนังสือทางกลุ่มจะเผาหนังสือที่จะยื่นบริเวณหน้าประตูทางเข้าของบรรดารัฐมนตรีและนายเศรษฐา ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ด้วยคำประกาศของกลุ่มผู้ชุมนุม ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องปรับเส้นทางให้นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีคนอื่นเข้าประตูอื่น และ ในเวลาต่อมา น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เดินทางออกไปรับหนังสือจากกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านเหมืองแร่โปแตสที่มาชุมนุมเรียกร้องหน้าสถานที่ประชุมครม.สัญจรจังหวัดนครราชสีมา โดยทันทีที่ น.ส.พิมพ์ภัทรา ออกไปถึงหน้าประตู ตัวแทนกลุ่ม กล่าวขึ้นทันทีว่า บรรยากาศเหมือน รัฐมนตรีมาเยี่ยมนักโทษ เนื่องจากเป็นการเจรจาผ่านรั้วประตู ทำให้เจ้าหน้าที่เปิดรั้วให้ น.ส.พิมพ์ภัทรา ออกไปรับมอบหนังสือจากมือผู้ชุมนุม จากนั้นผู้ชุมนุมได้นำเกลือที่ขึ้นในนาข้าวซึ่งเป็นผลกระทบการทำเหมืองโปรแตชมากองหน้าน.ส.พิมพ์ภัทรา พร้อมประกาศ 3 ข้อเรียกร้อง ดังนี้ 1.ขอให้มีคำสั่งให้ยกเลิกแผนแม่บทบริหารจัดการแร่ฉบับที่ 2 ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับแร่โปรแตชทั้งหมด เนื่องจากแผนแม่บทดังกล่าวไม่สอดคล้องกับพระราชบัญญัติแร่พ.ศ.2560 โดยไม่มีการสำรวจและกันพื้นที่โดยกำเนิดเขตแหล่งแร่เพื่อการทำเหมือง 2.เปิดโอกาสให้มีการสำรวจแร่และทำเหมืองแร่โปรแตชในพื้นที่ที่ไม่ได้อยู่ในเขตแหล่งแร่เพื่อการทำเหมืองและ 3.ขอให้ประเมินสิ่งแวดล้อมสำหรับการพัฒนาเหมืองแร่โปรแตชใหม่