รัฐออกมาตรการกระตุ้นการบริโภค

นายเอกภาวิน สุนทราภิชาติ ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด หรือ INVX เปิดเผยถึงแนวโน้มตลาดหุ้นไทย วันนี้ (6 ม.ค.68) ในรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” ว่า ภาพรวมดัชนีตลาดหุ้นไทยในวันนี้มีโอกาสฟื้นตัวได้ต่อจากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยได้แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนที่คาดว่าจะปรับลดดอกเบี้ย อีกทั้งตัวเลข PMI ภาคบริการของจีนสูงสุดในรอบ 7 เดือน อีกทั้ง Sentiment บวกจากตลาดหุ้นสหรัฐฯที่ปิดบวกเมื่อวันศุกร์ขณะที่ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นเป็นบวกต่อกลุ่มพลังงาน ดังนั้นมองว่า SET สัปดาห์นี้มีลุ้นกลับขึ้นมาทดสอบแถวบริเวณ 1,400 จุด อีกครั้ง ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1,360 จุด และ 1,373 จุด ตามลำดับ ส่วนกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนําให้ลงทุนใน 3 ธีมหลัก และแนะนำธีมเทรดดิ้งระยะสั้นดังนี้ 1.หุ้นที่ได้อานิสงส์จากรัฐออกมาตรการกระตุ้นการบริโภค ในโครงการ Easy E-Receipt แนะนํา กลุ่มพาณิชย์ อาทิ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO 2.หุ้นปันผลสูงและมีฐานการเงินแข็งแกร่งแนะนํา ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB, ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL 3.หุ้น Earnings Play ซึ่งเป็นหุ้นที่มีผลประกอบการอยู่ในช่วงขาขึ้น แนะนำ บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือ AMATA, บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR ส่วนธีมเทรดดิ้ง (Trading Idea) เน้นหุ้นที่คาดได้อานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน แนะนํา บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ IVL, บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC ส่วนปัจจัยไทยเก็บภาษี “บริษัทข้ามชาติ” ขั้นต่ำ 15% มองว่ากระทบไม่มากและในส่วนที่เป็น Sentiment ลบต่อราคาที่ผ่านมามองว่าราคาลงมาพ่อสมควรมากแล้ว อาทิ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF, บริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA มองว่าแรงขายน่าจะลดลงน้อยลงแล้ว อย่างไรก็ตามในสัปดาห์นี้มีตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่จะรายเข้ามาและปลายสัปดาห์รายงานประชุม “เฟด” โดยต้องติดตามสัญญาณลดดอกเบี้ยในปีนี้ และไฮไลท์ติดตาม 20 ม.ค.68 การรับตำแหน่งของทรัมป์ก็จะกังวลเรื่องนโยบายการค้า โดยมองน้ำหนักประเด็นดังกล่าวจะเข้ามาแทนที่ประเด็นไทยเก็บภาษี “บริษัทข้ามชาติ” ดังนั้นหุ้นที่ราคาลงมาลึกจากประเด็นไทยเก็บภาษี “บริษัทข้ามชาติ” ขั้นต่ำ 15% มีโอกาสลุ้นรีบาวได้ เหนือ 1,400 จุด ขึ้นไป เน้นกลุ่มเสี่ยงกระทบจำกัดจากนโยบายการค้าต่างประเทศ เน้นกลุ่ม Domestic Play และแบงก์ที่คาดว่าจะรายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 4/67 ออกมาดี อาทิ KTB,BBL นอกจากนี้ยังมองกลุ่มที่คาดว่าผลประกอบการไตรมาส 4/67 โดดเด่น ได้แก่กลุ่มบริโภค อาทิ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL ,กลุ่มท่องเที่ยวรับไฮซีซั่นได้แก่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT และกลุ่มอาหารบริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) หรือ BTG นอกจากนี้กลุ่มสื่อสารมีมุมมองน่าสนใจ อาทิ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC มีโอกาสทดสอบ 300 บาท และสามารถซื้อระดับ 280 บาท ส่วนบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE มีการฟื้นตัวขึ้นมาที่ระดับ 11 บาท มีโอกาสไปต่อแถวระดับ 11.40 บาท และ 12.40 บาท