ราคาหุ้นกลุ่มลีสซิ่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(6 ก.ย.66) ราคาหุ้นกลุ่มลีสซิ่งปรับตัวลงถ้วนหน้าจากความกังวลนโยบายรัฐบาลที่จะสนับสนุนการพักหนี้ ณ เวลา 15:01 น. นำโดย บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR อยู่ที่ระดับ 21.90 บาท ลบ 1.30 บาท หรือ 5.60% ราคาสูงสุด 23.30 บาท ราคาต่ำสุด 21.60 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 1.05 พันล้านบาท บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD ราคาอยู่ที่ระดับ 48.00 บาท ลบ 2.00 บาท หรือ 4.00% ราคาสูงสุด 50 บาท ราคาต่ำสุด 47.75 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 570.28 ล้านบาท บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC ราคาอยู่ที่ระดับ 39.50 บาท ลบ 0.75 บาท หรือ 1.86% ราคาสูงสุด 40.25 บาท ราคาต่ำสุด 39.25 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 316.96 ล้านบาท บริษัท เน็คซ์ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ NCAP ราคาอยู่ที่ระดับ 3.76 บาท ลบ 0.12 บาท หรือ 3.09% ราคาสูงสุด 3.90 บาท ราคาต่ำสุด 3.74 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 34.94 ล้านบาท บริษัท ศักดิ์สยามลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SAK ราคาอยู่ที่ระดับ 5.25 บาท ลบ 0.15 บาท หรือ 2.78% ราคาสูงสุด 5.45บาท ราคาต่ำสุด 5.20 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 8.13 ล้านบาท สำหรับราคาหุ้นที่ปรับตัวลงมา เป็นผลมาจากพรรคเพื่อไทย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงความคืบหน้านโยบายการพักหนี้เกษตรกรว่า ล่าสุดได้มอบหมายให้ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ไปดูเรื่องของขั้นตอนต่าง ๆ โดยประสานงานใกล้ชิดกับกระทรวงการคลัง คาดว่าน่าจะทำได้ในช่วงเดือนตุลาคม 2566 นี้ ด้าน บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า หุ้นกลุ่มไฟแนนซ์เช้านี้ปรับตัวลงมามากนำโดย TIDLOR เนื่องจากเป็นกลุ่มที่ปรับขึ้นมาก่อนหน้าจากความคาดหวังนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล แต่ในร่างนโยบายของรัฐบาลที่จะประกาศต่อรัฐสภาในสัปดาห์หน้า ระบุถึงนโยบายพักหนี้ ซึ่งไม่ได้จำกัดเพียงหนี้ของเกษตรกร แต่ยังรวมถึงหนี้ของประชาชนทั่วไป ทำให้ตลาดเกิดความกังวลว่าอาจจะกระทบกับผลประกอบการของกลุ่มนี้ รวมถึงภาวะเงินเฟ้อทั่วโลกรวมไทยเด้งตัวขึ้นมาจากราคาพลังงานที่สูงขึ้นมาอีกรอบ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นแตะระดับ 4.234% เมื่อคืนนี้ ทำให้กังวลอัตราดอกเบี้ยจะคงระดับสูงเป็นเวลานาน โดยเฉพาะหุ้น TIDLOR ปรับตัวลงมากที่สุดเพราะก่อนหน้านี้ปรับตัวขึ้นมากแล้ว นอกจากนี้ บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ระบุว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปและพื้นฐานของไทย เดือน ส.ค. อยู่ที่ เพิ่มขึ้น 0.88% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 0.79% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปขยายตัวมากกว่าที่ตลาดคาด จากราคาน้ำมันดิบที่เร่งตัวขึ้น อย่างไรก็ตาม อัตราเงินเฟ้อทั่วไปงวดเดือน 8 ปี 66 เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 2.01% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน อยู่ในกรอบเป้าหมายของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ 1-3% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน จึงประเมินว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีจำเป็นที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยน้อยลง และคาดอัตราดอกเบี้ยไทยใกล้ถึงจุดสูงสุดแล้ว แนะทยอยสะสมหุ้นกลุ่มลิสซิ่งที่ได้ sentiment เชิงบวก เช่น MTC, SAWAD, TIDLOR