ราคาหุ้นโรงไฟฟ้า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (14 ม.ค.68) ราคาหุ้น บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM อยู่ที่ระดับ 17.20 บาท บวก 0.20 บาท หรือ 1.18% สูงสุดที่ระดับ 17.70 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 17.00 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 114.96 ล้านบาท บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC อยู่ที่ระดับ 33.50 บาท บวก 0.50 บาท หรือ 1.52% สูงสุดที่ระดับ 35.00 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 33.25 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 246.14 ล้านบาท บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF อยู่ที่ระดับ 58.75 บาท บวก 0.75 บาท หรือ 1.29% สูงสุดที่ระดับ 59.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 58.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 809.91 ล้านบาท บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL อยู่ที่ระดับ 2.04 บาท บวก 0.04 บาท หรือ 2.00% สูงสุดที่ระดับ 2.06 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 2.02 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 11.27 ล้านบาท สำหรับราคาหุ้นโรงไฟฟ้ากลุ่ม SPP เด้งกลับขานรับประเด็นจาก ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เปิดเผยในงาน “Chat with Tony: Bull Rally of Thai Capital Market” ว่ามาตรการลดค่าไฟฟ้าจะไม่กระทบโรงไฟฟ้า SPP เหมือนที่กังวลกันก่อนหน้านี้ แต่เป็นการลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น เช่น การปิดโรงไฟฟ้าที่ต้นทุนสูง, การลดสวัสดิการค่าไฟฟ้าจากหน่วยงานราชการหรือหน่วยงานท้องถิ่น, และการลดค่าผ่านท่อก๊าซ เป็นต้น โดยคาดว่าจะเห็นแรงซื้อคืนเข้ามาในกลุ่มโรงไฟฟ้าหลังจากเกิดอาการแพนิคไปช่วงก่อนหน้า อย่างไรก้ตามการลดค่าไฟลงจาก 4.18 บาท/kWh เหลือ 3.70 บาท/kWh โดยการ “รีดไขมัน” เช่น ความสูญเสียในระบบสูงเกินไป โรงไฟฟ้าโรงไหนที่ต้นทุนสูงเกินไป ให้หยุดหรือใช้เป็นไฟฟ้าสำรองแทน หรือองค์กรท้องถิ่นที่ใช้ไฟฟ้าฟรี ให้ลดลง โดยไม่กระทบเอกชน ทั้งนี้ ไทยควรตั้งเป้าให้ราคาไฟเหลือ 0.06 บาท/kWh หรือราว 2.0 บาท/kWh เพราะปัจจุบันต้นทุนไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ลดลงเหลือเพียง 1.8-2.0 บาท/kWh ด้าน บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่ามาตรการลดค่าไฟฟ้าจะไม่กระทบโรงไฟฟ้า SPP เหมือนที่กังวลกันก่อนหน้านี้ แต่เป็นการลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น เช่น การปิดโรงไฟฟ้าที่ต้นทุนสูง, การลดสวัสดิการค่าไฟฟ้าจากหน่วยงานราชการหรือหน่วยงานท้องถิ่น, และการลดค่าผ่านท่อก๊าซ เป็นต้น (คาดเห็นแรงซื้อคืนในกลุ่มโรงไฟฟ้า)