ราจีฟ มังกัล

นายราจีฟ มังกัล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทาทา สตีล (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ TSTH เปิดเผยว่า บริษัทคาดผลประกอบการงวดปี 2565/2566 (เมษายน 2565 - มีนาคม 2566) เติบโตต่อเนื่องจากปีก่อนที่ทำได้ 32,640.33 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามปริมาณการขายเหล็กที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากปีก่อนอยู่ที่ 1.33 ล้านตัน โดยได้ปัจจัยหนุนจากเศรษฐกิจอาเซียนคาดว่าจะฟื้นตัวมาเติบโต 5.6% ในปีนี้ จากปีก่อน 3.1% ขณะเดียวกัน บริษัทเตรียมเพิ่มกำลังการผลิตอีก 3-5% จากปัจจุบันที่มีกำลังการผลิตเหล็กแท่งราว 1.4 ล้านตันต่อปี และเหล็กลวด (Wire Rod) ราว 1.7 ล้านตันต่อปี รวมถึงยังเตรียมขยายตลาดใหม่ๆ เพิ่มเติมด้วย ทั้งประเทศออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์, และแคนาดา เป็นต้น โดยคาดว่าจะเริ่มส่งออกไปแคนาดาได้ในไตรมาส 1/2565 ราว 28,000 ตัน สำหรับตลาดในประเทศคาดว่าเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวมาเติบโตได้ดีขึ้นในครึ่งปีหลังของปีการเงิน 2565 จากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งจะช่วยหนุนให้การบริโภคฟื้นตัวดีขึ้น โดยคาดการบริโภคเหล็กสำเร็จรูปของไทยปีนี้จะเติบโตราว 3-4% จากปีก่อน 18.63 ล้านตัน นอกจากนี้ธุรกิจเหล็กลวดในประเทศยังคงแข็งแกร่งจากราคาต่างประเทศสูง, การหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน และผู้ผลิตในอาเซียนหันมาเน้นส่งออกเหล็กแท่ง ส่วนในเดือนพฤษภาคม 2565 ที่ภาครัฐจะเลิกอุดหนุนน้ำมันดีเซล มองว่าจะส่งผลกระทบต่อต้นทุนเหล็กราวประมาณ 300-400 บาทต่อตัน และค่าขนส่งให้ปรับตัวขึ้น แต่อย่างไรก็ตามน่าจะส่งผลกระทบต่อบริษัทไม่มากนัก เนื่องจากต้นทุนบางส่วนสามารถแบกรับไว้ได้ และสามารถผลักไปสู่ผู้บริโภคได้