ราชินีแห่งโอลิมปิก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล สมาชิกคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) และนายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ กำลังถูกจับตามองจากสังคม หลังประกาศลงชิงเก้าอี้ “ประธานโอลิมปิกไทย” ซึ่งเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวที่ลงรับสมัครเลือกตั้งในครั้งนี้ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่มีความสำคัญต่อแวดวงกีฬา ทำให้เนื่องในวันสตรีสากลหนังสือพิมพ์ Bangkok Post ได้เปิดประวัติของสตรีไทยที่มีความโด่ดเด่น และทรงอิทธิพลในแต่ละด้าน ผ่านคอลัมภ์ “Women Vision” ในบทความดังกล่าวระบุว่า คุณหญิงปัทมา ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาคณะกรรมการประเมินความพร้อมของประเทศไทยในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเยาวชน ครั้งที่ 6 ในปี 2573 โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้มอบหมายให้เธอวิเคราะห์และเสนอแนวทางในการยกระดับขีดความสามารถของไทยในการจัดงานระดับโลก นอกจากนี้ เธอยังได้รับการแต่งตั้งจากนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ให้เป็นที่ปรึกษาคณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ซึ่งประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพในเดือนธันวาคมนี้ การมีส่วนร่วมของเธอช่วยให้การจัดการแข่งขันเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและได้มาตรฐานสากล ขณะที่การเลือกตั้งประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย (NOCT) กำลังจะมีขึ้นในวันที่ 25 มีนาคมนี้ คุณหญิงปัทมา ถือเป็นตัวเต็งที่ได้รับการคาดหมายว่าจะได้รับการเสนอชื่อโดยสมาคมกีฬาต่าง ๆ การสนับสนุนอย่างล้นหลามนี้เป็นผลจากบทบาทของเธอในการพัฒนาวงการกีฬาไทย และการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทระหว่างสมาคมกีฬาของไทยกับสหพันธ์กีฬานานาชาติ ทั้งนี้ ในหลายประเทศ สมาชิก IOC มักดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งชาติด้วย เพื่อให้เกิดการประสานงานที่มีประสิทธิภาพระหว่างหน่วยงานกีฬาภายในประเทศและองค์กรกีฬาระดับโลก นอกจากนี้ การสำรวจความคิดเห็นจาก KBU Sport Poll โดยศูนย์นวัตกรรมเพื่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต พบว่าคุณหญิงปัทมาได้รับคะแนนนิยมสูงสุดที่ 49.18% จากผู้ตอบแบบสอบถาม 1,137 คน ซึ่งสูงกว่าผู้สมัครรายอื่นอย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม แม้จะได้รับการสนับสนุนอย่างมาก แต่ยังไม่แน่ชัดว่าเธอจะยอมรับการเสนอชื่อหรือไม่ โดยขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเธอเอง คุณหญิงปัทมา ได้รับเกียรติจากสมาคมนักข่าวกีฬาแห่งประเทศไทยให้เป็น "ราชินีแห่งโอลิมปิก" ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงความทุ่มเทที่เธอมอบให้แก่วงการกีฬาไทยและนานาชาติ เธอเป็นสมาชิกหญิงเพียงคนเดียวของไทยใน IOC และเป็นคนไทยลำดับที่สี่ที่ได้รับตำแหน่งอันทรงเกียรตินี้ ซึ่งทำให้เธอมีโอกาสได้รับบทบาทที่สูงขึ้นภายใน IOC แต่เธอกลับเลือกที่จะให้ความสำคัญกับการพัฒนากีฬาของไทยเป็นอันดับแรก นอกเหนือจากบทบาทด้านบริหารกีฬาแล้ว คุณหญิงปัทมายังเป็นผู้สนับสนุนหลักของนักกีฬาชาวไทย ด้วยการบริจาคเงินมากกว่า 100 ล้านบาทต่อปีให้กับสมาคมกีฬาต่าง ๆ รวมถึงโครงการพัฒนาชนบทและเยาวชน การสนับสนุนของเธอทำให้นักกีฬาไทยมีทรัพยากรที่จำเป็นสำหรับการแข่งขันในระดับโลก นอกจากนี้ เธอยังได้รับสัญชาติกิตติมศักดิ์จากประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นเกียรติที่มอบให้แก่ชาวต่างชาติในกรณีพิเศษเท่านั้น คุณหญิงปัทมา ยังเป็นผู้สนับสนุนหลักของโอลิมปิกพิเศษประเทศไทย โดยมุ่งมั่นให้โอกาสแก่นักกีฬาที่มีความบกพร่องทางสติปัญญา ภายใต้การนำของเธอในการแข่งขันโอลิมปิกพิเศษฤดูร้อนโลกปี 2023 ที่กรุงเบอร์ลิน นักกีฬาไทยสามารถคว้า 10 เหรียญทองจาก 35 รายการที่เข้าร่วม ซึ่งสะท้อนถึงความทุ่มเทของเธอในการใช้กีฬาเป็นเครื่องมือในการพัฒนาและเสริมสร้างความเท่าเทียมในสังคม นอกเหนือจากการส่งเสริมกีฬา คุณหญิงปัทมา ยังมีบทบาทสำคัญในการดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคม ไม่ว่าจะเป็นการจัดประมูลงานศิลปะเพื่อการกุศล การมอบทุนการศึกษา และการสนับสนุนโครงการด้านศิลปะ ดนตรี และสาธารณสุข ซึ่งแสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลของเธอที่ครอบคลุมหลายมิติ ในช่วงเวลาที่ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของการเป็นผู้นำด้านกีฬา คุณหญิงปัทมา ยังคงเป็นบุคคลสำคัญที่ได้รับการยกย่องไม่เพียงแค่ในฐานะผู้บริหารกีฬาที่มีบทบาทระดับโลก แต่ยังเป็นผู้นำที่มีอิทธิพลต่อการพัฒนาและสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนรุ่นใหม่ ด้วยความทุ่มเทและวิสัยทัศน์ของเธอ อนาคตของวงการกีฬาไทยจึงมีแนวโน้มที่สดใสและพร้อมสำหรับการเติบโตบนเวทีโลก