ลำน้ำแควน้อย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2563 หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พล.9 (ปากพาน - น้ำโจน) ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้วัดโบสถ์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอวัดโบสถ์และเจ้าหน้าที่สถานีตำรวจภูธรวัดโบสถ์ ตรวจสอบพบการบุกรุกพื้นที่แปลงเป้าหมายที่ 4 (ป่าสงวนแห่งชาติป่าสองฝั่งลำน้ำแควน้อย) ตามแผนที่ 1 : 50,000 พร้อมพิกัดพื้นที่เป้าหมาย ตามตำแหน่งภาพถ่ายทางอากาศ ปี พ.ศ. 2545 จากการตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ จำนวน 2 จุด โดยใช้เครื่องมือตรวจสอบค้นหาค่าพิกัดด้วยสัญญาณดาวเทียม (GPS) ทั้ง 2 จุด โดยแปลงที่ 1 คำนวณเนื้อที่ได้ 191-1-04 ไร่ แปลงที่ 2 คำนวณเนื้อที่ได้ 87-2-36 ไร่ จึงได้ทำการตรวจยึดพื้นที่ และร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรวัดโบสถ์ เป็นคดีอาญาที่ 300/2563 เพื่อทำการสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี เนื่องจากมีจำนวนเนื้อที่บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติเกินกว่า 100 ไร่ อยู่ในอำนาจการสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ สถานีตำรวจภูธรวัดโบสถ์ได้ส่งสำนวนการสอบสวนคดีดังกล่าวมาให้กรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินการสอบสวนเป็นคดีพิเศษ พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษจึงได้มอบหมายให้กองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดำเนินการสอบสวนเป็นคดีพิเศษที่ 19/2566 ขณะนี้ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ โดย พันตำรวจโท อมร หงษ์ศรีทอง ผู้อำนวยการกองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ พันตำรวจตรี นิมิตร พรหมมา รองผู้อำนวยการกองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ และคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 19/2566 ได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนและมีพยานหลักฐานตามสมควรเชื่อว่ามีบุคคลกระทำผิดจริงตามที่มีการกล่าวหาโดยมีพฤติการณ์บุกรุกยึดถือครอบครองที่ดินในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าสองฝั่งลำน้ำแควน้อย คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ จึงได้แจ้งข้อกล่าวหากับ ผู้ต้องหาในคดี รวม 5 ราย ประกอบไปด้วย นายสวัสดิ์ (สงวนนามสกุล) นายอธิรัตน์ (สวนนามสกุล) นางสาวจันทรัตน์ (สงวนนามสกุล) นายรังสรรค์ (สงวนนามสกุล) และนายสมปอง (สงวนนามสกุล) ในข้อหาบุกรุกยึดถือครอบครองที่ดินในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ระหว่างวันที่ 6 - 7 พฤศจิกายน พ.ศ.2567 ที่ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษเขตพื้นที่ 6 จังหวัดพิษณุโลก ผู้ต้องหาทั้ง 5 ราย ให้การปฏิเสธ ทั้งนี้ คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษจะได้เร่งรัดสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานและมีความเห็นทางคดีต่อไป ทั้งนี้ การดำเนินการสอบสวนคดีพิเศษให้มีความรวดเร็ว ต่อเนื่อง และเป็นธรรม เป็นนโยบายหลักประการสำคัญของ พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการสอบสวนคดีพิเศษและให้เป็นที่เชื่อถือ ศรัทธาของสังคมในการป้องกันปราบปราม สืบสวนสอบสวนคดีในความรับผิดชอบ เพื่อให้การบริหารองค์การมีความยั่งยืนตามหลักธรรมาภิบาลต่อไป