วายุภักษ์หนึ่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (16 ก.ย. 67) เป็นวันแรกในการเปิดจองซื้อหน่วยลงทุนกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง สำหรับนักลงทุนทั่วไป วงเงิน 100,000-150,000 ล้านบาท ผ่านทางบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนและผู้สนับสนุนการขาย 8 ราย ได้แก่ 1.) บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTAM , 2.) บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) หรือ MFC , 3.) ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL , 4.) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB , 5.) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY , 6.) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK , 7.) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB และ 8.) ธนาคารออมสิน โดยเปิดให้จองซื้อขั้นต่ำ 1,000 หน่วย หรือ 10,000 บาท และเพิ่มขึ้นครั้งละ 100 หน่วย หรือ 1,000 บาท ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 20 ก.ย. 67 ขณะเดียวกัน บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน รวมถึงบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTAM และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) หรือ MFC ในฐานะผู้จัดการกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง มั่นใจว่าการระดมเงินลงทุนในรอบนี้ จะมีนักลงทุนรายย่อยให้ความสนใจจำนวนมาก โดยหลังจากการโรดโชว์เมื่อวันที่ 10 ก.ย. ที่ผ่านมา และจากการสอบถามรายละเอียดต่าง ๆ ผ่านธนาคารพาณิชย์และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนที่เปิดให้จองซื้อหน่วยลงทุนดังกล่าว พบว่าได้รับกระแสตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี โดย นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTAM เปิดเผยว่า หน่วยลงทุนประเภท ก. มูลค่ารวม 1-1.5 แสนล้านบาท จะถูกแบ่งเพื่อเสนอขายให้กับนักลงทุนทั่วไป 3-5 หมื่นล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 1-1.2 แสนล้านบาท จะเสนอขายให้กับนักลงทุนสถาบัน โดยมั่นใจว่ากองทุนฯ จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนรายย่อยจำนวนมาก จนมีโอกาสเกินวงเงินระดมทุนดังกล่าว ทั้งนี้มีแผนจะเข้าลงทุนในตลาดหุ้นไทยตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. และจะนำกองทุนฯ เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในวันที่ 7 ต.ค. นี้ นายวราห์ สุจริตกุล ประธานกรรมการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง กล่าวย้ำว่า กองทุนฯ มีฐานะทางการเงินที่มั่นคง โดย ณ วันที่ 30 มิ.ย. 67 มีกำไรสะสมอยู่ที่ 142,739 ล้านบาท ซึ่งแต่ละปีจะมีการจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหน่วยลงทุนประเภท ก. ในรูปแบบเงินปันผลตามผลตอบแทนที่เกิดขึ้นจริงไม่ต่ำกว่า 3% ต่อปี แต่ไม่เกินกว่า 9% ต่อปี โดยผู้ถือหน่วยลงทุนประเภท ก. จะได้รับเงินปันผลอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง คำนวณจากมูลค่าที่ตราไว้ (Par) ของหน่วยลงทุนประเภท ก. ที่ 10 บาทต่อหน่วย ซึ่งไม่ใช่การรับประกันหรือค้ำประกันผลตอบแทน แต่เป็นกลไกคุ้มครองผลตอบแทนของกองทุนฯ