วายุภักษ์ หนึ่ง

นายกัณฑรา ลดาวัลย์ ณ อยุธยา กรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) หรือ FSS เปิดเผยผ่านรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” วันนี้ (13 ธ.ค.67) ว่าดัชนี SET Index วันนี้ ยังมีทิศทางซึมตัว เนื่องมาจากนักลงทุนรอติดตามผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) และการประชุม ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันพุธที่ 18 ธ.ค. 67 อย่างไรก็ตาม ฝ่ายนักวิเคราะห์มีความคิดเห็นเกี่ยวกับผลประชุม กนง. โดยคาดการณ์อยากให้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ก่อน ส่วนภาพรวมตลาดหุ้นวานนี้ยังคงมีแรงขายหุ้นใหญ่ออกมาเรื่อย ๆ หากไม่มี เดลต้า เข้ามาพยุงตลาดฝ่ายนักวิเคราะห์มองว่าทิศทาง SET Index ยังคงน่าเป็นห่วง ขณะที่ กองทุน Thai ESG ช่วงสิ้นปีนี้มองว่ายังคึกคัก โดยจากการสำรวจพบว่านักลงทุนเริ่มมีการสอบถามข้อมูล วิธีการซื้อ โดยจากสถิติส่วนใหญ่นักลงทุนจะเข้าซื้อ Thai ESG ช่วงสัปดาห์สุดท้ายของปี ซึ่งแรงซื้อกองทุนจะส่งผลให้ตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นไปในปี 68 อย่างไรก็ตาม ฝ่ายนักวิเคราะห์ขอย้ำกับนักลงทุนว่าการลงทุน Thai ESG กว่า 1 หมื่นล้านบาท จะมีผลต่อดัชนี 25 จุด และภาพรวม กองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง ปัจจุบันยังถือว่ามีเม็ดเงินที่น้อยอยู่ แต่เชื่อว่าช่วงนี้อาจมีการเข้าลงทุนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่ ภาพเงินลงทุนต่างชาติ (Fund Flow) ในประเทศทีเทขายออกมา ฝ่ายนักวิเคราะห์มองว่าเงินที่ออกไปส่วนใหญ่จะอยู่ที่สหรัฐฯ ซึ่งสิ่งที่กองทุนในประเทศรออยู่หลังเงินไหลออก คือ เงินลงทุนมาจากกองทุน Thai ESG ที่จะเป็นปัจจัยสนับสนุนตลาดหุ้น โดยภายในสิ้นปี 67 ฝ่ายนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าดัชนี SET Index อาจสามารถทดสอบแนวต้านที่ 1,460 จุด ส่วนกลยุทธ์การลงทุนสำหรับเดือน ธ.ค. แนะนำตั้งรับหุ้นเด่น คือ บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV, บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS, บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL, บริษัท มากุโระ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAGURO และ บริษัท อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) หรือ RBF ทั้งนี้ ขอเน้นย้ำให้นักลงทุนติดตามผลประชุม กนง. และ เฟด ที่เป็นปัจจัยสำคัญอย่างมากในสัปดาห์หน้า โดยหากผลประชุมออกมาว่า กนง. คงอัตราดอกเบี้ยและเฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง จะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้หุ้นปรับตัวขึ้นไปได้