วิทยา วันเพ็ญ

นางสาวขมาภรณ์ ธัมพิพิธ รองกรรมการผู้อำนวยการฝ่ายบัญชีและการเงิน บริษัท โรงพยาบาลพระรามเก้า จำกัด (มหาชน) หรือ PR9 เปิดเผยข้อมูลภาพรวมธุรกิจของบริษัทผ่านงาน Opportunity Day จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในวันที่ 29 พฤษภาคม 2567 ว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2567 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 1,081 ล้านบาท เติบโต 61.40% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2566 ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิ 158.99 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46.10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 108.82 ล้านบาท สำหรับรายได้และกำไรสุทธิเติบโตแข็งแกร่ง โดยเป็นผลมาจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นรับรู้รายได้จากผู้ป่วย OPD ประมาณ 59% ซึ่งมาจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นของศูนย์ทุกศูนย์ โดยเฉพาะแผนก Checkup, ER, อายุรกรรม, สูติ มีรายได้เพิ่มขึ้นจากจำนวน visit ที่เพิ่มขึ้นเป็นหลัก และรายได้จากผู้ป่วย IPD ประมาณ 41% ซึ่งมาจากการมีจำนวนเคส OR ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นการรักษาด้าน ENT, Ortho, Surgery รวมถึงมีการส่องกล้อง GI Scope เพิ่มขึ้นทำให้ Patient Day เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันบริษัทมีการบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างดี โดยต้นทุนค่าแพทย์ลดลง ต้นทุนด้านสาธารณูปโภคลดลง (จากนโยบายการลดค่าไฟของรัฐและการดูแลเรื่องระบบหล่อเย็นของ chiller) ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2567 เติบโตขึ้นจากปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นผลมาจากการทำ BRANDING ของทีมการตลาด และมีแผนเพิ่มฐานลูกค้าต่างชาติเป็น 15-17% จากเดิมอยู่ที่ 13-14% เนื่องจากมีการขยายฐานผู้ป่วยไปยังกลุ่ม CLMV ซึ่งจะเป็นเป้าหมายหลักของโรงพยาบาลต่อไป ขณะที่กลุ่มผู้ป่วยใหม่อย่างอาหรับมีกระแสตอบรับดีปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่แนวโน้มผลการดำเนินงานทั้งปี 2567 คาดว่ารายได้จะเติบโต 2 หลัก รับรู้จากกลุ่มผู้ป่วย OPD และกลุ่มผู้ป่วย IPD ขยายตัวต่อเนื่อง เนื่องจากกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาโดยเฉพาะลูกค้าจีนที่เข้ามาใช้บริการในด้านสุขภาพ ศัลยกรรม ทัตกรรม ว่ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ประกอบกับในช่วงไตรมาส 3-4 เป็นช่วงไฮซีซั่น นอกจากนี้บริษัทมีแผนธุรกิจในอนาคตจะมีการเปิดศูนย์แพทย์แผนจีน คาดว่าจะเปิดได้ปลายไตรมาส 2/2567 หรือต้นไตรมาส 3/2567 เนื่องจากโรงพยาบาลอยู่ในทำเลที่ชาวจีนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก นายแพทย์วิทยา วันเพ็ญ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ PR9 กล่าวว่า บริษัทมีแผนกลยุทธ์ในอนาคต 3 ปีข้างหน้า ระหว่าง (2567-2569) จะแบ่งออกเป็น 4 ยุทธศาสตร์หลักๆ 1.การมุ่งสู่การเป็น Global standard การทำให้เกิดมาตราฐานที่เป็นระดับโลก โดยเฉพาะเรื่องของการรักษาพยาบาลการวัดตัวชี้วัดต่างๆ ที่เป็นค่าผลของการรักษา อัตราผลสำเร็จในการรักษา การลดการติดเชื้อ รวมทั้งความปลอดภัยต่างๆ ต่อผู้มารับบริการ 2.เรื่องของการบริการที่เป็นระดับ World-class hospitality ในการมารักษาที่โรงพยาบาลแล้วยังได้รับบริการที่ดีตั้งแต่เริ่มเข้ามารับบริการจนกระทั่งรับการบริการเสร็จเรียบร้อย 3.เรื่องของการทำงานที่มีประสิทธิภาพสูงสุด Efficiency with Collaboration โดยมีความร่วมจากทั้งภายในและภายนอก 4.เรื่องของการนำ Digital transformation มาใช้ในโรงพยาบาล Company Snapshot