วิโรจน์ นูคำดี

หลังจาก “กลุ่มตรีวีรานุวัฒน์” ซึ่งเป็นทั้งผู้ก่อตั้งและผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท ทาคูนิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TAKUNI ได้ขายหุ้นล้างพอร์ตไปตั้งแต่ช่วงปลายปี 2565 ก็ทำให้ TAKUNI กลายเป็น “หุ้นเบี้ยหัวแตก” ไม่มีใครเป็นเจ้าของชัดเจน (ปัจจุบันมีชื่อ “วิโรจน์ นูคำดี” ถือหุ้นใหญ่เบอร์หนึ่งสัดส่วน 6.44%) เลยอยู่ในภาวะวังเวง ธุรกิจไม่รู้จะไปทางไหนดี..?? ขณะที่ผู้ถือหุ้นใหญ่บางรายพยายามผลักและดันให้ TAKUNI ไปลงทุนในธุรกิจพลังงานไฟฟ้า เพื่อให้สอดคล้องกับกระแสเมกะเทรนด์...ก็ว่ากันไป แต่ในระหว่างนี้ได้มีกระบวนการปัดกวาดล้างบ้านตัดขาย 2 ธุรกิจดั้งเดิมออกไป นั่นคือธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจให้บริการบุคลากรด้านต่าง ๆ..!! โดยช่วงกลางปี 2567 ประกาศขายหุ้นสัดส่วน 20% ในบริษัท เอ็นริช เวนเจอร์ จำกัด ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ให้กับบริษัท เอ แอสเสท จำกัด และบริษัท เอ็นริช เอสเตท โฮลดิ้ง จำกัด คิดเป็นมูลค่า 40.06 ล้านบาท ส่วนธุรกิจให้บริการบุคลากร เป็นการขายหุ้นสัดส่วน 51% ในบริษัท รักษาความปลอดภัย การ์เดี่ยนโกลบอล จำกัด ให้กับ Advance Technology Enterprise Limited และ “ณัฎฐ์นรี วรนิติเยาวภา” คิดเป็นมูลค่า 204 ล้านบาท ไปตั้งแต่ปีมะโว้ช่วงปลายปี 2566 แต่ปัญหามันไม่จบ...คาราคาซังมาจนถึงทุกวันนี้ อย่างการขายธุรกิจอสังหาฯ กว่า TAKUNI จะได้เงินงวดแรก ก็หืดจับ จากเดิมกำหนดจ่ายเงินงวดแรกกันในวันที่ 30 ต.ค. 2567 ก็เลื่อนมาจ่ายกันวันที่ 25 ธ.ค. 2567 แม้จะได้ค่าปรับอัตราดอกเบี้ย 15% ก็เถอะ... ไม่รู้ว่างวดต่อ ๆ ไปจะเลื่อนจ่ายอีกหรือเปล่า..?? ชักน่าเป็นห่วงแล้วสิ ในขณะที่การขายธุรกิจให้บริการบุคลากรก็ยังได้เงินไม่ครบนะ มิหนำซ้ำมีคดีฟ้องร้องตามมาอีก... ต้นสายปลายเหตุของเรื่องนี้...เนื่องจากตามสัญญาตกลงโอนหุ้นให้แก่ผู้ซื้อก็ต่อเมื่อผู้ซื้อชำระค่าหุ้นตามเงื่อนไขแต่ละงวดครบถ้วนแล้ว ทำให้บริษัทยังไม่ได้โอนหุ้นให้แก่ผู้ซื้อ และขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามทวงหนี้ในการรับชำระค่าหุ้นให้ครบถ้วน...ซึ่งไม่รู้ว่าจะเป็นเมื่อไหร่..?? ขณะเดียวกัน TAKUNI กลับถูกบุคคล 2 ราย ฟ้องร้องให้เพิกถอนนิติกรรมการซื้อขายและโอนหุ้นในบริษัท รักษาความปลอดภัย การ์เดี่ยนโกลบอล จำกัด (GGS) ซึ่งเป็นนิติกรรมขณะที่บริษัทเข้าซื้อเงินลงทุนใน GGS โดยศาลจังหวัดนนทบุรีจะนัดสืบพยานในวันที่ 2-5 ก.ย. 2568 งานนี้คงอีกยาว... ดูเหมือนพอร์ตการลงทุนของ TAKUNI จะเจอปัญหานะเนี่ย..!! หันไปดูผลการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมา ก็ลูกผีลูกคน สะท้อนได้จากงบการเงินงวดปี 2566 กำไรลดลงฮวบฮาบเหลือแค่ 15.16 ล้านบาท เทียบกับปี 2565 มีกำไรอยู่ที่ 127.81 ล้านบาท ส่วนงวด 9 เดือนปี 2567 มีตัวเลขขาดทุนอยู่ที่ 63.40 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565 ที่มีกำไรสุทธิ 39.57 ล้านบาท ดีนะที่มีหนี้ไม่เยอะมาก โดย ณ สิ้นไตรมาส 3/2567 มีส่วนของหนี้สินระยะยาวส่วนที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปี 89.29 ล้านบาท ทั้งหมดเป็นหนี้แบงก์ ขณะที่มีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด 93.91 ล้านบาท และมีกำไรสะสมยังไม่ได้จัดสรร 140.95 ล้านบาท แต่ถ้าสถานการณ์ยังเป็นอย่างนี้ต่อไป...คงจบไม่สวยแหง ๆ เรียกว่างบก็ไม่ดี...ยังมาเจอปัญหาพอร์ตลงทุนอีก..!? มิน่าล่ะ...ราคาหุ้น TAKUNI ถึงได้เละเป็นโจ๊กอย่างที่เห็น ปัจจุบันซื้อขายกันที่ 54 สตางค์เท่านั้น ว่าแต่ “เสี่ยโป๋”–ธีรพล นพรัมภา แอนด์เดอะแก๊ง หายไปไหนเนี่ย...ยังอยู่กันครบหรือเปล่าน้อ...ทำไมถึงปล่อยให้หุ้น TAKUNI เละเทะขนาดนี้... หรือเผ่นแน่บกันไปหมดแล้ววว..?? ...อิ อิ อิ...