วุฒิศิลป์

นายวุฒิศิลป์ จรัสบวรพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพื่อนแท้ แคปปิตอล จำกัด หรือ PUEAN เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมออกและเสนอขายหุ้นกู้ มูลค่า 180 ล้านบาท อายุ 3 ปี 6 เดือน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 7.5% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้ โดยจะเปิดให้นักลงทุนสถาบัน และนักลงทุนรายใหญ่จองซื้อวันที่ 8-10 เม.ย.68 โดยมี บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และมีผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ 4 แห่ง ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) และ บริษัทหลักทรัพย์ เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จำกัด (มหาชน) สำหรับวัตถุประสงค์ในการออกหุ้นกู้ครั้งนี้ บริษัทวางแผนนำเงินระดมทุนที่ได้จำนวน 140 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของกิจการ ในการดำเนินธุรกิจดำเนินธุรกิจให้บริการสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์พลัส โดยปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการดำเนินงานขยายสาขาให้บริการตามแผน ซึ่งคาดการณ์ว่าจะสามารถรองรับความต้องการสินเชื่อจากประชาชนที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งเพื่อนำเงินระดมทุนที่ได้ไปใช้สำหรับการชำระหุ้นกู้ PUEAN255A จำนวน 40 ล้านบาท ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายปี 68 จะสร้างการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อที่ระดับ 1 พันล้านบาท โดยบริษัทเตรียมเปิดบริษัทย่อยใหม่จำนวน 1 แห่ง ได้แก่ บริษัท เพื่อนแท้ เงินด่วน (สมุทรสาคร) จำกัด และขยายสาขาย่อยในพื้นที่เขตบางแค จำนวน 1 แห่ง ส่งผลให้สาขาการให้บริการของ “เพื่อนแท้ เงินด่วน” จะเพิ่มขึ้นที่จำนวน 25 สาขา ครอบคลุมพื้นที่ 16 จังหวัดทั่วประเทศ นายวุฒิศิลป์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ประเด็นการขึ้นภาษีของสหรัฐ คาดการณ์ว่าจะได้รับผลกระทบเล็กน้อย และจะเริ่มเห็นผลตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3/68 เป็นต้นไป ขณะที่สถานการณ์แผ่นดินไหว คาดการณ์ว่าจะได้รับผลกระทบจำกัดเช่นกัน โดยบริษัทอยู่ระหว่างการขยายสาขา ซึ่งในช่วงไตรมาส 1 ที่ผ่านมา บริษัทได้เปิดสาขาบางแค และอยู่ระหว่างขอใบอนุญาตเพิ่มเติมเพื่อเปิดสาขาใหม่ในจังหวัดสกลนคร และพิษณุโลก ในช่วงไตรมาส 2 นี้ ดร.สมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานกรรมการ APM เปิดเผยว่า หุ้นกู้ของ PUEAN ได้รับการตอบรับที่ดี โดยปัจจุบันบริษัทมี NPL อยู่ในระดับ 3.5% และอยู่ระหว่างการดำเนินการเพื่อทำให้ตัว NPL ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ดังนั้นหากในปี 69 ผลประกอบการของ PUEAN เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ คาดการณ์ว่าจะสามารถยื่นไฟลิ่งเพื่อนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ซึ่งจะช่วยระดมทุนในตราสารทุน และนำเงินมาขยายธุรกิจ และชำระหุ้นกู้ให้ครบได้ตามกำหนด