สยามอินดิก้า

ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (16 ต.ค.67) อ้างอิงแหล่งข่าวจากสายการเงิน เปิดเผยถึงการประกาศเลื่อนคัดเลือก ประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เป็นวันที่ 4 พฤศจิกายน 2567 หลัง สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ส่งอัยการสูงสุดอุทธรณ์ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ในคดีระบายข้าว ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 21 มิ.ย. 64 ป.ป.ช. มีมติเสียงข้างมาก 7 ต่อ 2 เสียง ชี้มูลความผิดนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ กับพวกที่เป็นเจ้าหน้าที่ องค์การคลังสินค้า (อคส.) คดีการระบายข้าวจำนวน 3 แสนตัน ให้ บริษัท สยามอินดิก้า จำกัด ปรับปรุงข้าวเพื่อส่งมอบให้แก่ ประเทศอินโดนีเซีย (BULOG) จำนวน 30,000 ตัน ตามสัญญาการซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) เมื่อเดือน ธ.ค. 2564 หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่าคดีข้าวบูล็อค ต่อมาเมื่อวันที่ 11 ก.ค. 2567 ที่ผ่านมา ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อ่านคำพิพากษา คดีนี้ โดยพิพากษายกฟ้อง นายกิตติรัตน์ ว่า ในฐานะจำเลยเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ แต่ไม่ได้ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจากข้อมูลการซื้อขายข้าว ส่งมอบข้าวและข้อมูลที่เกี่ยวข้อง นายภูมิ ซึ่งเป็นรมช.พาณิชย์ (ในสมัยนั้น) ทราบเป็นอย่างดี และจำเลยรับทราบข้อมูลต่าง ๆ ผ่านนายภูมิ ส่วนข้อหาสร้างความเสียหายต่อประเทศชาติอย่างร้ายแรงไม่จำเป็นต้องพิจารณาเนื่องจากไม่มีผลต่อคดี โดย นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง นับเป็นหนึ่งในผู้ชิงตำแหน่งบอร์ดแบงก์ชาติ ร่วมกับ ผู้ท้าชิงตำแหน่งอีก 2 ราย ได้แก่ นายกุลิศ สมบัติศิริ อดีตปลัดกระทรวงพลังงาน และ ศ.ดร.สุรพล นิติไกรพจน์ ศาสตราจารย์ประจำสาขากฎหมายมหาชน คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งการคัดเลือกดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังจากที่ นายปรเมธี วิมลศิริ ที่หมดวาระเมื่อวันที่ 16 ก.ย.67 ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม นายกิตติรัตน์ ยังเคยดำรงตำแหน่งเป็นประธานที่ปรึกษา นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ขณะที่ในช่วงต้นเดือน ต.ค.67 ปรากฏข่าว กรรมการสรรหาประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่มี นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ อดีตปลัดกระทรวงการคลังจะเสนอชื่อ นายกิตติรัตน์ เพื่อพิจารณาแต่งตั้งประธานคณะกรรมการ ธปท. คนใหม่ แทนที่ นายปรเมธี วิมลศิริ ที่หมดวาระลง จนทำให้เกิดแรงต่อต้านจากหลายฝ่าย ทั้งความเห็นอดีตคนแบงก์ชาติ และนักวิชาการ ที่ห่วงว่า เป็นคนที่การเมืองตั้งใจส่งเข้ามาแทรกแซงการทำงานของ ธปท. ส่วนกรอบระยะเวลาการคัดเลือกบอร์ดแบงก์ชาติ มีการวางไว้ 120 วันนับจากวันที่ประธานกรรมการคนเดิมหมดวาระแล้วซึ่งสามารถรักษาการต่อไปได้ตามกฎหมาย คือตั้งแต่ 16 ก.ย. 67 ไปจนถึง 16 ม.ค.68 อย่างไรก็ตาม ระยะเวลาในการสรรหาอาจใช้เวลานาน เนื่องจากฝ่ายเลขาฯและคณะทำงานของ ธปท. จะดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติเสร็จแล้วคณะกรรมการสรรหาฯก็จะสามารถตัดสินได้