สยามอินเตอร์มัลติมีเดีย

ย้อนไปช่วงปลายปี 2561 เกิดกระแสฮือฮา ว่าด้วยการ Backdoor Listing กรณีบริษัท สยามอินเตอร์มัลติมีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ SMM มีการเพิ่มทุนมโหฬาร เพื่อเข้าซื้อกิจการเฟ้ลปส์ ดอด์จ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) ผู้ผลิตและจำหน่ายสายไฟฟ้าและสายเคเบิลไฟฟ้า ที่มี “กลุ่มตั้งคารวคุณ” เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่... ทำให้ได้มาซึ่งแอสเซท และสัดส่วนการถือหุ้นเปลี่ยนไปเป็น “กลุ่มตั้งคารวคุณ” เข้ามาถือหุ้นใหญ่ SMM ในสัดส่วน 94.2% และภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK ที่กำลังฉาวโฉ่ในปัจจุบัน...กลายเป็นดีลแบ็กดอร์ขนาดใหญ่ที่ใคร ๆ ก็พูดถึงในขณะนั้น เอาล่ะ..!! มาวันนี้มีอีกหนึ่งกรณีที่ใกล้เคียง หรือแทบถอดแบบกันมาเป๊ะ เมื่อจู่ ๆ บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) หรือ NUSA ก็ประกาศเพิ่มทุนก้อนโต เพื่อไปแลกหุ้นบริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด (WEH) ผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน จากบริษัท ธนา พาวเวอร์ วัน จำกัด (TONE) จำนวนไม่เกิน 29.00 ล้านหุ้น คิดเป็น 26.65% ในราคาหุ้นละ 405 บาท คิดเป็นมูลค่า 11,748 ล้านบาท ด้วยการออกหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง หรือ PP จำนวน 13.05 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 0.90 บาท คิดเป็นมูลค่า 11,748 ล้านบาท จัดสรรให้กับบริษัท ธนา พาวเวอร์ วัน...ซึ่งคล้ายกับกรณี SMM ที่มีการออกหุ้นเพิ่มทุนแบบ PP ให้กับ “กลุ่มตั้งคารวคุณ” นั่นแหละ ที่น่าสนใจ จะทำให้ NUSA โครงสร้างธุรกิจเปลี่ยนไปเป็นไฟฟ้าทันที ในขณะที่โครงสร้างผู้ถือหุ้นก็เปลี่ยนไป มีบริษัท ธนา พาวเวอร์ วัน เข้ามาถือหุ้นในสัดส่วน 49.98%..!! ซึ่งแม้จะถือหุ้นไม่ถึง 50% แต่ก็เป็นที่รู้กันว่า มีอำนาจเบ็ดเสร็จแล้ว..!? ส่วนที่ถือหุ้นไม่ถึง 50% จะเป็นเพราะไม่อยากให้เข้าเกณฑ์ต้องทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์หรือเปล่าน้อ..?? อันนี้ต้องไปเค้นถามหาคำตอบจากปาก “เสี่ย ป.” แล้วล่ะ อีกช็อตที่น่าสนใจ ด้วย WEH เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ปัจจุบันมีโรงไฟฟ้าที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้ว 8 โครงการ กำลังการผลิตรวม 717 เมกะวัตต์ โดยมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) มีอายุสัญญาเริ่มต้น 5 ปี และสามารถต่ออายุสัญญาไปคราวละ 5 ปี โดยมีราคารับซื้อไฟฟ้า (Adder) ในอัตรา 3.50 บาทต่อหน่วย ทำให้ที่ผ่านมาผลการดำเนินงานเติบโตต่อเนื่อง ปี 2563 มีรายได้จากการขาย 9,887 ล้านบาท กำไรสุทธิ 4,169 ล้านบาท ปี 2564 มีรายได้จากการขาย 10,693 ล้านบาท กำไรสุทธิ 5,319 ล้านบาท และปี 2565 มีรายได้จากการขาย 10,144 ล้านบาท กำไรสุทธิ 5,283 ล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านี้ คนในแวดวงตลาดทุนก็รู้กันเต็มอกว่า มีความเพียรพยายามทั้งผลักและดัน WEH เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่สำเร็จสักที ส่วนจะด้วยเหตุผลกลใดนั้น อย่าให้ต้องสาธยายเลย...ไม่อยากหาเหาใส่หัว เอาเป็นว่าการแลกหุ้นของ NUSA กับ WEH ครั้งนี้ แว๊บแรกที่ดูเหมือน NUSA เข้าไปเทกโอเวอร์ WEH นั้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว เป็นการ Reverse Takeover ต่างหากล่ะ.. เท่ากับว่า WEH ก็ได้เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ สมใจอยากสักที..!! แม่นบ่ เอ๊ะ...หรือนี่จะเป็นการโดนแบ็กดอร์ของ NUSA ป๊ะเนี่ย..!? จะใช่อ๊ะป่าว..?? คงมิกล้าฟันธง..!! แต่จากนี้ไปน่าจับตา NUSA จะไม่ใช่อสังหาริมทรัพย์อีกต่อไปแล้ว ธุรกิจหลักจะเปลี่ยนเป็นธุรกิจไฟฟ้าแทน... เฉกเช่นเดียวกับ SMM เมื่อ 5 ปีที่แล้ว จากทำหนังสือการ์ตูน ก็มาเป็นสายไฟ... แต่คงไม่ลงเอยเหมือน STARK หรอกมั้ง..!? ...อิ อิ อิ...