สรพจน์ เตชะไกรศรี

หลังจากหุ้นบริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PACE เจ้าของ “ตึกมหานคร” ที่เคยโด่งดังในอดีต ถูกแขวนป้าย SP มายาวนานกว่า 5 ปี (แขวนตั้งแต่วันที่ 3 มี.ค. 2563)...อ้อ ตลาดหลักทรัพย์ฯ เคยปลดป้าย SP ชั่วเคราว เพื่อเปิดให้ซื้อขายหุ้นระหว่างวันที่ 4 มิ.ย.-3 ก.ค. 2563 มาแล้วรอบหนึ่ง หลังจากขึ้นเครื่องหมาย SP ต่อเนื่องครบ 3 เดือน หลังจากนั้นก็แขวนป้าย SP ยาววว ๆ ๆ ๆ ส่วนสารตั้งต้นของเรื่องนี้มาจากโครงการต่าง ๆ ของ PACE มีปัญหาขายได้ไม่ตามเป้า ทำให้ขาดสภาพคล่องอย่างหนัก จนมีหนี้สินล้นพ้นตัว และเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการไปตามระเบียบ (พัก)...ซึ่งด้วยเงื่อนไขงบการเงินที่มีปัญหา นำมาสู่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ต้องเพิกถอนหุ้น PACE ออกจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 2 ก.ค. 2567 เป็นต้นไป แต่ก่อนจะถูกเพิกถอน ตั้งแต่วันนี้ (21 มิ.ย.) ไปจนถึงวันที่ 1 ก.ค. 2567 (รวม 7 วันทำการ) จะเป็นช่วงเวลาในการปล่อยผี อุ๊ย...ให้นักลงทุนและคนที่ติดหุ้น PACE อยู่ ได้มีโอกาสตัดสินใจว่าจะขายทิ้งหรือเข้ามาซื้อเพื่อเก็งกำไร..?? โดยมีเงื่อนไขให้ซื้อขายด้วยเงินสด หรือบัญชี Cash Balance เท่านั้น พร้อมจะขึ้นเครื่องหมาย NC กำกับ เพื่อเตือนนักลงทุนให้ใช้ความระมัดระวังในการซื้อขายหลักทรัพย์ โดยวันแรก (21 มิ.ย.) ที่เปิดซื้อขาย ไม่กำหนด Ceiling & Floor และตลาดหลักทรัพย์ฯ จะไม่นำหุ้น PACE มารวมในการคำนวณดัชนีราคา SET Index... กลายเป็น 7 วันสุดท้ายก่อนที่ PACE จะหลุดจากวงโคจรตลาดหลักทรัพย์ฯ อย่างถาวร... ที่น่าสนใจ ถ้าไปดูทำเนียบผู้ถือหุ้นใหญ่ ณ วันที่ 16 มี.ค. 2563 มีแต่ขาใหญ่ทั้งนั้น...เท่ากับว่า การปล่อยผีหุ้น PACE ครั้งนี้ ก็เหมือนเปิดคุกผู้ถือหุ้น ทั้งรายเล็ก รายใหญ่ ได้หลุดพ้นจากกรงขังซะที..!! ไล่มาตั้งแต่ “เสี่ยยิ่ง”-สรพจน์ เตชะไกรศรี ผู้ปลุกปั้นอาณาจักร PACE ติดหุ้นอันดับ 1 จำนวน 3,877.50 ล้านหุ้น คิดเป็น 26.98% ส่วน “ยุพา เตชะไกรศรี” แม่ของ “เสี่ยยิ่ง” ติดหุ้นอันดับ 9 สัดส่วน 400.37 ล้านหุ้น คิดเป็น 2.79% ในขณะที่ “สุเมธ เตชะไกรศรี” พ่อของ “เสี่ยยิ่ง” ติดหุ้นอันดับ 23 จำนวน 106.57 ล้านหุ้น คิดเป็น 0.74% ส่วนบิ๊กบจ.ก็มีหลายคน ไม่ว่าจะเป็น “วิวรรธน์ ไกรพิสิทธิ์กุล” ผู้ก่อตั้งบริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SNNP เจ้าของอาณาจักรขนมขบเคี้ยวหมื่นล้าน ติดหุ้นอันดับ 2 จำนวน 850.97 ล้านหุ้น คิดเป็น 5.92% ฟาก “ก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์” รองประธานกรรมการ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL ติดหุ้นอันดับ 7 จำนวน 546.85 ล้านหุ้น คิดเป็น 3.80% ด้าน “จิรวุฒิ คุวานันท์” บอสใหญ่โค้วยู่ฮะ กรุ๊ป ดีลเลอร์ใหญ่อีซูซุ มีสาขาทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคเหนือ ภาคอีสาน มากกว่า 30 แห่ง ติดหุ้นอันดับ 4 จำนวน 623.40 ล้านหุ้น คิดเป็น 4.34%, “วริศ บูลกุล” ทายาทผู้ให้บริการด้านข้อมูลหรือคำปรึกษาด้านธุรกิจและการเงิน การลงทุน อย่างบริษัท บรุ๊คเคอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BTC ติดหุ้นอันดับ 5 จำนวน 607.51 ล้านหุ้น คิดเป็น 4.23% ในขณะที่ BTC เป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 10 ถือโดยตรงอีก 391 ล้านหุ้น คิดเป็น 2.72% ฟากนักลงทุนสถาบันก็มีไม่น้อยนะ อย่าง LGT BANK (SINGAPORE) LTD ติดหุ้นอันดับ 3 จำนวน 643.51 ล้านหุ้น คิดเป็น 4.48%, UOB KAY HIAN PRIVATE LIMITED ติดหุ้นอันดับ 8 จำนวน 500 ล้านหุ้น คิดเป็น 3.48%, CHINA TONGHAI SECURITIES LIMITED-ACCOUNT CLIENT ติดหุ้นอันดับ 11 จำนวน 376.50 ล้านหุ้น คิดเป็น 2.62%, THE HONGKONG AND SHANGHAI BANKING CORPORATION LIMITED, SINGAPORE BRANCH ติดหุ้นอันดับ 14 จำนวน 323.80 ล้านหุ้น คิดเป็น 2.25%, CHINA TONGHAI SECURITIES LIMITED A/C CLIENT ติดหุ้นอันดับ 20 จำนวน 129.92 ล้านหุ้น คิดเป็น 0.90% และบริษัท เอ็มซีแอล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ติดหุ้นอันดับ 24 จำนวน 100 ล้านหุ้น คิดเป็น 0.70% อ้อ...แบงก์ใหญ่อย่างธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB ซึ่งเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่และติดหุ้นอันดับ 12 จำนวน 369.96 ล้านหุ้น คิดเป็น 2.57% ไม่หมดแค่นี้ ยังมีนักลงทุนรายใหญ่อย่าง “เสี่ยยักษ์” วิชัย วชิรพงศ์ ติดหุ้นอันดับ 15 จำนวน 284.96 ล้านหุ้น คิดเป็น 1.98% ด้าน “จารุณี ชินวงศ์วรกุล” ติดหุ้นอันดับ 6 จำนวน 547.83 ล้านหุ้น คิดเป็น 3.81% นี่แค่บางส่วนเท่านั้นนะ ยังมีที่ไม่ได้เอ่ยนามก็อีกหลายคน... ขณะที่มีนักลงทุนรายย่อยติดหุ้น PACE อยู่ราว 5,100 ราย ก็น่าจับตา 7 วันอันตรายนี้ หุ้น PACE คงมีการเคลื่อนไหวอย่างมีนัยสำคัญ... ใครเข้า...ใครออก ช่วง 7 วันนี้ คงได้รู้กัน..!! ...อิ อิ อิ...