สายเก็ง

ไม่ทำให้สายเก็งผิดหวัง..!! หลังจากก่อนหน้านี้หุ้นบริษัท เอส พี วี ไอ จำกัด (มหาชน) หรือ SPVI ถูกจับมาเก็งกำไรเป็นพัก ๆ ทำให้ราคาเคลื่อนไหวหวือหวา โดยมีสตอรี่งบไตรมาส 3/2564 จะออกมาเฟี้ยวฟ้าว หลังกระแสสินค้าไอทีขายดิบขายดีเทน้ำเทท่าในช่วงโควิด และการเปิดตัวสินค้ากลุ่มแอปเปิล... กลายเป็นแรงเห่อให้มีการเข้ามาไล่ราคาหุ้น SPVI กันคึกคัก... ครั้นเปิดงบไตรมาส 3/2564 ออกมาก็ดีดังคาด กำไรเติบโตตั้ง 83.3% โดยฟันกำไรสุทธิไป 14.39 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 7.85 ล้านบาท เรียกว่า ได้ใจสายเก็ง (กำไร) ไปเต็ม ๆ...เมื่อวันศุกร์ที่ 5 พ.ย. 2564 จึงเห็นราคาหุ้น SPVI ออกอาการระริกระรี้วิ่งรับงบสวย ด้วยการปรับขึ้นไป 4.24% ปิดตลาดที่ 6.15 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 18.10 ล้านบาท ที่เห็นกำไร SPVI เติบโตระเบิดระเบ้อนั้น ก็มาจากรายได้จากการขายและการบริการที่เพิ่มขึ้น 44.9% อยู่ที่ 1,000.49 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากในช่วงสถานการณ์โควิด ทำให้ผู้บริโภคมีความต้องการสินค้าประเภทสมาร์ตโฟนและแท็บเล็ตเพื่อใช้ในการเรียนและการทำงานมากขึ้น ประกอบกับมีการเพิ่มช่องทางขายสินค้าผ่านทางออนไลน์ ทำให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าในช่วงที่มีการล็อกดาวน์ ปิดสาขา ได้เป็นอย่างดี โดยมีกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 99.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.0% แต่อัตรากำไรขั้นต้นลดลงจาก 11.6% ในไตรมาส 3/2563 มาอยู่ที่ 9.9% เนื่องจากเป็นการเติบโตจากยอดขายผ่านช่องทางออนไลน์เป็นหลัก ทำให้มาร์จิ้นลดลง... ส่วนขาของต้นทุนแม้จะเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นต้นทุนขายเพิ่มขึ้น 47.6% อยู่ที่ 899.19 ล้านบาท ต้นทุนบริการเพิ่มขึ้น 69.7% อยู่ที่ 2.07 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายในการขายเพิ่มขึ้น 7.1% อยู่ที่ 66.27 ล้านบาท แต่ก็เป็นไปตามยอดขายที่เพิ่มขึ้นนั่นเอง... เลยทำให้บรรทัดสุดท้ายของ SPVI ยังดูดีอย่างที่เห็น... ส่งผลให้งบงวด 9 เดือนแรกปีนี้ ตุนกำไรสุทธิไว้แล้ว 65.06 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 106% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 31.59 ล้านบาท และมีรายได้รวม 3,568.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 65.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 2,150.49 ล้านบาท เอาเป็นว่า ถ้าไม่สะดุดยอดหญ้าหัวทิ่มไปซะก่อน อย่างน้อย ๆ ปีนี้น่าจะเห็นกำไรไม่ต่ำกว่าปีก่อนที่ทำได้ 73 ล้านบาทแหง ๆ... ดังนั้น ถ้าจะบอกว่าปีนี้เป็นปีทองของ SPVI ก็คงไม่ผิดนัก... ทว่าเห็นงบ SPVI แล้ว ก็ชวนให้นึกถึงหุ้นอีกตัวหนึ่งที่คู่คี่กันมาตลอด นั่นคือ บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 ของ “เสี่ยสุระ คณิตทวีกุล” ซึ่งขายสินค้าไอทีเหมือน ๆ กัน ก็น่าจะฟันกำไรฟู่ฟ่าไม่แตกต่างกัน... โอเค...สินค้ากลุ่มสมาร์ตโฟน แท็บเล็ต แก็ดเจ็ต คงขายดีไม่แพ้กัน แต่ความเสี่ยงของ COM7 น่าจะอยู่ที่สินค้าประเภทเครื่องคอมพิวเตอร์และโน้ตบุ๊ก เนื่องจากมีการปิดสาขาในห้าง ครั้นจะขายผ่านช่องทางออนไลน์ก็มีข้อจำกัด ก็ต้องติดตามกันว่าสินค้ากลุ่มนี้จะเป็นความเสี่ยงของ COM7 ด้วยหรือเปล่า..? อีกไม่นานคงได้รู้กัน แต่ด้วยระดับชื่อชั้น “เสี่ยสุระ” มีเหรอที่จะทำให้มิตรรักแฟนหุ้นผิดหวัง..!? คงไม่หรอกมั๊ง... ...อิ อิ อิ...