สำนักข่าวยอนฮับ

ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (11 ก.พ.68) เจ้าหน้าที่ศาลประเทศเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า ศาลเกาหลีใต้ได้ตัดสินให้ ธนาคารเอชเอสบีซี หรือ HSBC พ้นผิดจากข้อกล่าวหาละเมิดกฎการ ชอร์ตเซลล์ (Short Selling) ของประเทศเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ตามรายงานของ สำนักข่าวยอนฮับ หน่วยงานของ HSBC ใน ฮ่องกง ถูกอัยการตั้งข้อหาชอร์ตเซลล์โดยผิดกฎหมายคิดเป็นมูลค่าเกือบ 16,000 ล้านวอน (ประมาณ 11.01 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ขณะที่ ศาลแขวงโซลใต้ มีคำวินิจฉัยว่าไม่มีหลักฐานบ่งชี้ว่าเจ้าหน้าที่ของ HSBC มีเจตนาละเมิดกฎระเบียบเกี่ยวกับการชอร์ตเซลล์ อย่างไรก็ตามอัยการยังได้ตั้งข้อหานักลงทุน 3 ราย รวมถึงหน่วยงานของ HSBC ในฮ่องกง ในความผิดเกี่ยวกับการทำ "Naked Short-Selling" หรือการขายชอร์ตโดยไม่มีหุ้นรองรับ "เราไม่มีเจตนาที่จะละเมิดกฎระเบียบเกี่ยวกับการชอร์ตเซลล์ของเกาหลีใต้ และเราหวังว่าจะสามารถก้าวข้ามเรื่องนี้ไปได้" โฆษกของ HSBC กล่าว ทั้งนี้ ในเกาหลีใต้การทำ Naked Short-Selling หรือ การขายหุ้นโดยไม่ได้ยืมหุ้นมาก่อน ถือเป็นสิ่งต้องห้ามตาม พระราชบัญญัติตลาดทุน โดยก่อนหน้านี้การทำชอร์ตเซลล์เคยถูกวิพากษ์วิจารณ์จากนักลงทุนรายย่อยในเกาหลีใต้ว่าเป็นปัจจัยที่ทำให้ราคาหุ้นร่วงลง ซึ่งรัฐบาลจึงประกาศห้ามการชอร์ตเซลล์ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2566 หลังพบว่าธนาคารเพื่อการลงทุนต่างชาติบางแห่งมีการทำ Naked Short-Selling อย่างไรก็ตาม เกาหลีใต้มีแผนจะยกเลิกการห้ามชอร์ตเซลล์ทั่วทั้งตลาดในเดือนมีนาคมนี้ โดยคาดการณ์ว่าจะมีระบบพร้อมสำหรับตรวจจับการซื้อขายที่ผิดกฎหมาย โดยก่อนหน้านี้ HSBC ได้เผชิญคดีความในเกาหลีใต้เกี่ยวกับการทำ "Naked Short-Selling" หรือการขายชอร์ตโดยไม่มีหุ้นรองรับ ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายตาม พระราชบัญญัติตลาดทุนของเกาหลีใต้ เหตุการณ์สำคัญที่เกี่ยวข้องเริ่มช่วงธันวาคม 2566 สำนักงานกำกับดูแลทางการเงินของเกาหลีใต้ (FSS) ได้สั่งปรับ HSBC และ BNP Paribas เป็นเงินอย่างน้อย 10,000 ล้านวอน (ประมาณ 7.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ต่อธนาคารแต่ละแห่งฐานฝ่าฝืนกฎระเบียบด้วยการทำ Naked Short-Selling ถัดมาช่วงกุมภาพันธ์ 2567 สำนักงานของ HSBC Securities และ HSBC Korea ในโซล ถูกเจ้าหน้าที่สืบสวนเข้าตรวจค้น เนื่องจากสงสัยว่ามีการทำชอร์ตเซลล์ที่ผิดกฎหมาย ขณะที่ล่าสุด ศาลแขวงโซลใต้ได้ตัดสินว่า ไม่มีหลักฐานที่บ่งชี้ว่าเจ้าหน้าที่ของ HSBC มีเจตนาละเมิดกฎระเบียบเกี่ยวกับการชอร์ตเซลล์ จึงได้ยกฟ้องข้อกล่าวหาดังกล่าว แม้ว่าศาลจะยกฟ้องในคดีล่าสุด แต่ HSBC ยังคงเผชิญกับการตรวจสอบและการกำกับดูแลอย่างเข้มงวดจากหน่วยงานกำกับดูแลของเกาหลีใต้ในเรื่องการปฏิบัติตามกฎระเบียบทางการเงิน