สุรบต วิสุทธิเมธากุล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวานนี้ (30 ก.ย. 2567) ราคาหุ้น บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG ปรับตัวลงแรง 5.24% มาปิดตลาดที่ราคาต่ำสุดของวันที่ 19.90 บาท ลดลง 1.10 บาท มูลค่าซื้อขายรวม 43.59 ล้านบาท ล่าสุดกังวลความเสี่ยงหุ้น THG ที่หมอบุญถืออยู่ 184 ล้านหุ้น อาจถูกเจ้าหนี้บังคับขาย (ฟอร์ซเซลล์) เนื่องจากหมอบุญได้นำหุ้นดังกล่าวไปจำนำเพื่อเป็นหลักประกันในการกู้ยืมเงิน แหล่งข่าววงการการแพทย์ เปิดเผยกับ "ข่าวหุ้นธุรกิจ" ว่า น่าห่วงมากที่หุ้น THG ที่หมอบุญถืออยู่ 184 ล้านหุ้น จะถูกเจ้าหนี้ฟอร์ซเซลล์ เพราะไม่รู้ว่าจะถูกขายออกมาตอนไหน และส่งผลกระทบต่อผู้ถือหุ้น THG และกระทบถึงบริษัท โรงพยาบาลรามคำแหง จำกัด (มหาชน) หรือ RAM ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 ของ THG ในสัดส่วน 24.59% อย่างแน่นอน ทั้งผู้ถือหุ้นรายย่อย และผู้ถือหุ้นรายใหญ่ และเจ้าหนี้หลายรายมีการแจ้งความดำเนินคดีหมอบุญกรณีเช็กเด้งที่สน.ห้วยขวาง ขณะที่ นายสุรบต วิสุทธิเมธากุล ผู้อำนวยการบัญชีและการเงิน-ผู้รับผิดชอบสูงสุดในสายงานบัญชีและการเงิน กลุ่ม RAM เปิดเผยกับ "ข่าวหุ้นธุรกิจ" ว่า RAM ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 ของ THG ถึงกรณีที่มีความเสี่ยงที่หุ้น THGที่หมอบุญถือหุ้น 200 ล้านหุ้น จะถูกฟอร์ซเซลล์จากเจ้าหนี้หลังนำไปจำนำเป็นหลักประกันกู้เงินนั้นว่า หากเกิดขึ้นจริงในอนาคต ยอมรับว่าอาจจะมีผลกระทบกับราคา และมูลค่าหุ้น RAM แน่นอน เนื่องจากเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 ของ THG โดยเป็นเรื่องของอนาคต ซึ่งยังไม่รู้ว่าจะมีผลกระทบจะมากหรือน้อยอย่างไร ซึ่งแน่นอน RAM ไม่อยากให้ราคาหุ้น THG และ RAM ปรับตัวลงมาก ส่วนประเด็นข่าวที่ว่ากลุ่ม RAM มีสัญญาเช่าพื้นที่ดำเนินกิจการ เป็นที่ดินของหมอบุญ ซึ่งอาจโดนยึดทรัพย์ หรือเกิดปัญหาในระยะยาว หากหมอบุญมีการนำที่ดินไปจำนองจริงนั้น นายสุรบต กล่าวว่า ปัจจุบันกลุ่ม RAM ไม่มีสินทรัพย์ใด หรือโรงพยาบาลในเครือที่ได้เช่าที่ดินของหมอบุญเลย นอกจากนี้ กลุ่ม RAM เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 ของ THG เป็นเข้ามาลงทุนเพื่อให้เป็นสินทรัพย์ระยะยาว และไม่ได้เป็นการเข้ามาถือหุ้น THG เพื่อทำกำไรแต่แรก ดังนั้นการร่วมมือเชิงธุรกิจ (synergy) จะยังคงดำเนินการต่อไป และฝ่ายบริหารยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงนโยบายใด ๆ ในขณะนี้ “นายแพทย์เอื้อชาติ กาญจนพิทักษ์ เข้าไปนั่งประธานบอร์ดกรรมการ THG กลุ่ม RAM เราไม่ได้ตั้งใจเข้าไปควบคุมอยู่แล้วแต่แรก โดย THG ยังคงมีหน้าที่ดําเนินธุรกิจตามปกติ ทั้งในแง่ของผลักดันผลการดำเนินงาน และการดูแลรับผิดชอบต่อผู้ถือหุ้น ขณะที่กลุ่ม RAM มีเข้าไปช่วยดูด้วย พร้อมทั้งยังคงทำงานร่วมกันปกติ" นายสุรบต กล่าว นายสุรบต กล่าวต่อว่า ผลการดำเนินงานของ THG ในช่วงไตรมาส 1 และไตรมาส 2 ของปี 2567 ถือว่าไม่ค่อยนักจากปัจจัยกดดันหลาย ๆ ด้าน แต่กลุ่ม RAM ได้เข้าไปช่วยดูแลตั้งแต่ไตรมาส 2/2567 และคาดว่าน่าจะดีขึ้นตามลำดับหลังผ่านไตรมาส 3/2567 ไปแล้ว แม้ว่าไตรมาสนี้จะเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจโรงพยาบาล แต่จะมีผลกระทบเกี่ยวผันกันจากข่าวลบของ THG ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ “กระแสข่าวเชิงลบของ THG ทั้งเรื่องพบรายการผิดปกติในบริษัทย่อย และเรื่องหนี้สินของหมอบุญ ทำให้เกิดความกดดันต่อความเชื่อมั่นของผู้ถือหุ้นบ้าง และทำให้บรรยากาศช่วงนี้ไม่ค่อยดีนัก ดังนั้นหากมองแค่ผลการดำเนินงานของ THG ปัจจุบันถือว่าได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว” นายสุรบต กล่าว อย่างไรก็ตามกลุ่ม RAM ไม่ได้เข้าลงทุนแค่ THG แต่มีการลงทุนที่หลากหลาย โดยมีการเข้าไปถือหุ้นในบริษัทอื่นที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ และนอกตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งเป็นเครือธุรกิจที่ค่อนข้างใหญ่ สะท้อนถึงความแข็งแกร่ง และการกระจายความเสี่ยงของการลงทุนได้เป็นอย่างดี โดยกลุ่ม RAM มีฐานะทางการเงินที่ดี ด้านนางสาวณฐินี ชำนาญกิจโกศล หัวหน้าฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท โรงพยาบาลวิภาวดี จำกัด (มหาชน) หรือ VIBHA ในฐานะผู้ถือหุ้นอันดับ 4 ของ RAM ถือหุ้นในสัดส่วน 6.28% เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ว่า VIBHA ไม่มีความกังวลหากหุ้น THG ที่หมอบุญจะถูกเจ้าหนี้ฟอร์ซเซลล์ อาจทำให้มูลค่าการลงทุนของ RAM ลดลง เพราะบริษัทมีต้นทุนลงทุนหุ้น RAM ที่ถูก และไม่ได้มีการบันทึกมูลค่าทางบัญชี รวมทั้งกลุ่ม VIBHA และกลุ่ม RAM มีการทำงานร่วมกัน หรือทำธุรกิจร่วมกันอยู่แล้ว คิดว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร ส่วนนายแพทย์สุรินทร์ ประสิทธิ์หิรัญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โรงพยาบาลราชธานี จำกัด (มหาชน) หรือ RJH ในฐานะผู้ถือหุ้นอันดับที่ 13 ของ RAM ในสัดส่วน 1.04% เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ว่า ไม่ได้มีความกังวลเกี่ยวกับราคาหุ้น THGที่หมอบุญถูกฟอร์ซเซลล์อาจกระทบราคาหุ้น RAM เนื่องจากมีต้นทุนลงทุนใน RAM ที่ถูกมากเมื่อเทียบกับราคาหุ้นที่ของในกระดาน แต่ต้องติดตามว่าราคาหุ้น RAM ปรับตัวลงแรงหรือไม่ หากเกิดรายการดังกล่าว