สุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้กำลังติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างจีนกับไต้หวันอย่างใกล้ชิด โดยประเด็นที่น่าจับตามอง คือ กรณีที่จีนได้ระงับการส่งออกทราย ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ (ชิป) ไปยังไต้หวัน ซึ่งไต้หวันถือว่าเป็นประเทศที่ผลิตชิปในอุตสาหกรรมยานยนต์ รายใหญ่ของโลก ซึ่งไทยก็ต้องพึ่งพาชิปจากไต้หวันในปริมาณมากเช่นกัน ทั้งนี้มีความกังวลว่า ปัญหานี้ยืดเยื้อจะทำให้ไต้หวันหาทรายจากแหล่งอื่นมาทดแทนไม่ได้ เพราะไต้หวันต้องพึ่งพาทรายจากจีนถึง 90% ปัญหาดังกล่าวจะเป็นการซ้ำเติมให้กับปัญหาการขาดแคลนชิปที่หนักขึ้นของอุตสาหกรรมยานยนต์ รวมถึงอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยที่จะได้รับผลกระทบไปด้วย อย่างไรก็ดีปัญหาการขาดแคลนชิป มีมานานตั้งแต่ช่วงที่โควิด – 19 ระบาดใหม่ ทำให้ชิปเริ่มขาดแคลนและมีราคาสูงจึงทำให้รถยนต์บางรุ่นในไทยผลิตได้ล่าช้าลง และมีบางรุ่นได้ปรับราคาขึ้นไปแล้ว ตามต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ส.อ.ท. มองว่าหากสถานการณ์การขาดแคลนชิป ยังไม่คลี่คลาย หรือยังไม่ดีขึ้นจะทำให้ต้นทุนการผลิตปี 2566 ก็จะสูงเพิ่มมากขึ้น และอาจทำให้การปรับราคาจำหน่ายรถยนต์ต่างๆ รวมถึงยานยนต์ไฟฟ้า(อีวี) อาจจะมีมากขึ้นกว่าปีนี้ ดังนั้นเรื่องนี้ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด และหาแนวทางรับมือ