สุวรรณา ขจรวุฒิเดช

สำนักข่าวรัชดา เรียกว่าการกระจายหุ้นบริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR แทบจะสมบูรณ์แบบ.! ทั้งเรื่องการประชาสัมพันธ์ เกิดการรับรู้ข่าวสารที่กว้างขวาง จนเป็นที่มาของยอดจองซื้อหุ้น OR จากนักลงทุนรายย่อย (ประชาชนทั่วไป) อย่างทะลักท่วมท้น 530,000 รายการ (สูงสุดเป็นประวัติการณ์) คิดเป็นมูลค่ากว่า 35,000 ล้านบาท มีจำนวนมากกว่า 2 เท่าตัว จากมูลค่าที่จัดสรรไว้เพียง 16,000 ล้านบาท แต่ดั๊นมาเกิด “เชื้อราบนผ้าขาว” ขึ้นจนได้ นั่นคือการจัดสรรหุ้นให้นักลงทุนสถาบันหลักโดยเฉพาะเจาะจง หรือที่เรียกกันว่า Conerstone Investors จำนวน 1,714.30 ล้านหุ้น (มูลค่า 30,857 ล้านบาท) จัดแบ่งเป็นกองทุนในประเทศ 19 แห่ง จำนวน 1,264.30 ล้านหุ้น และกองทุนต่างประเทศ 9 แห่ง 450 ล้านหุ้น แต่มันเกิดข้อพิรุธตรงที่มีการจัดสรรให้ 4 กองทุนที่อยู่ในกลุ่มกองทุนในประเทศ นั่นคือ... 1)BIC BANK LAO COMPANY LIMITED เป็นธนาคารพาณิชย์ ที่ถือใบอนุญาต ที่ออกโดยธนาคารแห่งสปป.ลาว (Bank of the Lao P.D.R) ได้รับจัดสรร 31,100,000 หุ้น 2)Capital Asia Investment Pte LTD เป็นบริษัทในสิงคโปร์ ที่ถือใบอนุญาตบริษัทจัดการกองทุน ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานด้านการเงินของสิงคโปร์ ได้รับจัดสรร 15,600,000 หุ้น 3)บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนเดนาลี เพรสทีจ จำกัด ซึ่งเป็นกองทุนส่วนบุคคล ทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท ได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงการคลัง ได้รับจัดสรร 29,3000,000 หุ้น 4)The Ton Pho Fund (ต้นโพธิ์) เป็นบริษัทจัดการกองทุนเปิด จัดตั้งในรูปแบบบริษัทที่ได้รับยกเว้นของหมู่เกาะเคย์แมน ได้รับจัดสรร 15,600,000 หุ้น จากข้อพิรุธดังกล่าว..นำมาสู่ข้อกังขาว่า การจัดสรรหุ้นให้ 4 กองทุนที่ว่านี้..ผิดวัตถุประสงค์หรือเอื้อประโยชน์ต่อใครกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หรือเพื่อการใดการหนึ่ง หรือไม่..!? เริ่มจาก BIC BANK LAO ,Capital Asia และ The Ton Pho Fund ที่ชัดเจนว่าเป็นกองทุนจดตั้งในต่างประเทศ แต่ทำไมถึงได้รับอภิสิทธิ์ จัดอยู่ในกลุ่มกองทุนสัญชาติไทยไปได้ ขณะที่กองทุนเดนาลี เพรสทีจ ชัดเจนแจ่มแจ้งว่า..เป็น “กองทุนส่วนบุคคล” แต่ทำไมหลับหูหลับตา จัดให้มาอยู่ในกลุ่มเดียวกับ “กองทุนรวม” ได้อย่างไร..และนั่นหมายถึง “ผิดวัตถุประสงค์” ของการกระจายให้นักลงทุนโดยทั่วไป เพราะมันกระจุกอยู่แค่รายใดรายหนึ่ง หรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เพียงเท่านั้น..!! ยิ่งชวนสงสัยไปมากกว่านั้น..ทั้ง 4 กองทุนที่ว่านี้ ว่ากันว่ามีความเชื่อมโยงกับ “บริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร” หนึ่งในที่ปรึกษาทางการเงิน OR ซะด้วยซิ..!? อย่างกรณี “กองทุนเดนาลี เพรสทีจ” ที่มีบิ๊กเบิ้มในบล.เกียรตินาคินภัทร เกี่ยวโยงอยู่เบื้องหลัง ส่วน The Ton Pho Fund เป็นที่รู้กันว่า ผู้ก่อตั้งและเจ้าของคือ “จี๊ป” อธิไกร จาติกวณิช และเป็นลูกค้าซุปเปอร์วีไอพี ของบล.เกียรตินาคินภัทร นั่นเอง ส่วน BIC BANK LAO แม้ว่าจัดตั้งในสปป.ลาว แต่ว่ากันว่ามีคนไทยระดับอดีตรัฐมนตรีหลายกระทรวง เป็นผู้อยู่เบื้องหลังและมีการทำธุรกรรมต่าง ๆ ผ่านบล.ชื่อดังย่านถนนรัชดาแห่งหนึ่ง..!? เหตุจูงใจการจัดสรรหุ้นให้ 4 กองทุนที่ว่านี้ มันเสมือนดั่งเป็นการจัดสรรหุ้น OR ให้ “ผู้มีอุปการคุณกับ FA” อย่างไงก็ไม่รู้..!! ที่เด็ดกว่านั้น..เบื้องหลังดีลนี้มีชื่อ “บิ๊กสน” และ “บิ๊กสุ” เข้ามามีเอี่ยวด้วย.!? แต่จะ “สน” ไหนหรือ “สุ” ใด..อันนี้ก็ไม่รู้สินะ.!?? ...อิ อิ อิ...